บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย):

Delta Electronics (Thailand) (DELTA TB)

การยุติข้อพิพาททางกฎหมายอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นในระยะสั้น

คงคำแนะนำ “ขาย” จากปัจจัยระยะสั้นและมูลค่าที่สูงเกินไป

เราคงคำแนะนำ “ขาย” หุ้น DELTA ที่ราคาเป้าหมาย 63 บาท แม้จะมีแนวโน้มระยะยาวที่แข็งแกร่ง แต่ด้วยค่า P/E ปี 69 ที่ระดับ 80 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยของคู่แข่งหลักที่เพียง 24 เท่า ทำให้มูลค่าดูแพงเกินไป เราคาดการณ์กำไรหลักไตรมาส 2/68 ที่ 4.6 พันล้านบาท (-23% YoY, -9% QoQ) โดยได้รับผลกระทบจากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ลดลง YoY นอกจากนี้เรายังเห็นความเสี่ยงต่อประมาณการกำไรปี 68/69 สูงสุด 6% จากค่าใช้จ่ายชำระคดีความกับ Vicor อย่างไรก็ตาม อัตราการใช้งานที่สูงเกินคาดในโรงงานใหม่ Wellgrow 3 และ 4 อาจเป็นปัจจัยบวกต่อประมาณการของเรา ทั้งนี้ เราชอบหุ้น Cal-Comp (CCET TB, ราคาปัจจุบัน 6.5 บาท, แนะนำ “ซื้อ”, ราคาเป้าหมาย 9.0 บาท) มากกว่าในกลุ่ม ETRON ของไทย เนื่องจากมีการเติบโตของกำไรหลักที่ 4%/31% YoY และมีมูลค่าที่น่าสนใจกว่าที่ P/E ปี 69 เพียง 13.6 เท่า (-0.5SD จากค่าเฉลี่ย 5 ปี)

แรงกดดันด้านอัตรากำไรอาจฉุดกำไรหลัก 2Q68

เราคาดกำไรหลักของ DELTA ในไตรมาส 2/68 จะอยู่ที่ 4.6 พันล้านบาท (-23% YoY, -9% QoQ) แม้ว่าตลาด AI และดาต้าเซ็นเตอร์ยังเติบโตต่อเนื่อง แต่อัตรากำไรขั้นต้นน่าจะลดลงจากการแข็งค่าของเงินบาท และกำไรจากการตีราคาสินค้าคงคลังในไตรมาส 2/67 ที่สูง นอกจากนี้เราคาดว่าค่าใช้จ่าย SG&A จะเพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย และสัดส่วนผลิตภัณฑ์กลุ่ม AI/ดาต้าเซ็นเตอร์ที่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์มากขึ้น ทั้งนี้ DELTA มีกำหนดประกาศ
งบการเงินในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้

ประเด็นคดีความอาจสร้างภาระให้ DELTA สูงสุดถึง 4 พันล้านบาท

จากข้อมูลสาธารณะระบุว่า DELTA และ Vicor Corp ได้ตกลงยุติคดีละเมิดสิทธิบัตรกันแล้ว โดย CEO ของ Vicor คาดว่าจะได้รับผลตอบแทน 8-9 เท่าจากการลงทุนในคดีนี้ราว 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ในรูปค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย) ซึ่งหมายถึงการจ่ายเงินรวม 240-270 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (แบ่งกันระหว่าง DELTA, บริษัทแม่ และจำเลยรายอื่น) เราคาดว่า DELTA จะรับผิดชอบประมาณ 33-50% ของยอดรวม และเริ่มทยอยจ่ายตั้งแต่ไตรมาส 2/68 (~195-335 ล้านบาทต่อไตรมาส) ดังนั้น เราเห็นดาวน์ไซด์ต่อประมาณการกำไรหลักปี 68/69 ราว 1-6%

รายได้มีแนวโน้มจำกัด จนกว่า Wellgrow 3 & 4 จะเปิดดำเนินการ

เรามองว่า DELTA ขาดปัจจัยหนุนระยะสั้น เนื่องจากฐานกำไรในไตรมาส 2-3/67 อยู่ในระดับสูง (จากกำไรตีราคาสินค้าคงคลัง) ทำให้ยอดขาย YoY ในครึ่งหลังปี 68 มีโอกาสเติบโตจำกัด เพราะโรงงานเดิมของบริษัทใกล้เต็มกำลังการผลิตแล้ว (ยกเว้นโรงงาน 8 ที่เน้นผลิต EV) ขณะที่โรงงานใหม่ Wellgrow 3 และ 4 จะเริ่มดำเนินการในต้นปี 69 ซึ่งได้รวมไว้ในประมาณการแล้ว

 

- Advertisement -