บล.พาย:
TTB: TMBThanachart PCL
เงินปันผลสูงชดเชยการเติบโตที่ยังอ่อนแอ
เราคงคำแนะนำ ‘ถือ” แต่ปรับลดมูลค่าพื้นฐานเหลือ 1.96 บาท (เดิม 2.00 บาท) คำนวณด้วยวิธี GM (ROE 8%, TG 2%) อิงจาก 0.8xPBV’25E และ 9.5x P/E’25E โดย TTB รายงานกำไรสุทธิใน 2Q25 ออกมาที่ 5 พันล้านบาท (-6.6% YoY, -1.8% QoQ) ขณะที่ NPL ratio ลดลงที่ 2.7% และ Coverage ratio ลดลงที่ 149% เรามองว่าความเสี่ยงจากเศรษฐกิจสูงขึ้นจากทั้งนโยบายภาษีของสหรัฐ การท่องเที่ยวและการบริโภคอ่อนแอกว่าคาด ทำให้มองว่าภาระสำรองหนี้ฯ จะสูงกว่าคาด แม้ว่าการซื้อกิจการ บล. ธนชาต จะช่วยเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม เราปรับลดกำไรสุทธิลง 1%/2% ในปี 2025-26 และคาดกำไรในปี 2025-26 จะปรับลดลง 3.9%/0.4% ตามลำดับ อย่างไรก็ดี มองว่าโครงการซื้อหุ้นคืน และคาดผลตอบแทนเงินปันผลสูงที่ราว 6.7% ในปี 2025 ช่วยลดความผันผวนของราคาหุ้น สำหรับแนวโน้มใน 2H25 เราคาดกำไรจะทรงตัว HoH และลดลงเล็กน้อย YoY
ประชุมนักวิเคราะห์
- เป้าหมายระยะยาว (1) ROE มากกว่า 10% (2) High yield loan mix 30-35% ของสินเชื่อรายย่อย (3) Cost to income ratio (CIR) ต่ำกว่า 40% และ (4) Normal credit cost ที่ 125-135 bps
- มุมมองลบต่อนโยบายภาษีของสหรัฐ และยังไม่สามารถประเมินผลกระทบได้ชัดเจน เพราะขึ้นกับอัตราภาษีที่สินค้าไทยจะถูกเก็บ
- ปัจจัยเสียงด้านเศรษฐกิจทำให้ TTB ตังสำรองหนี้ฯ ส่วนเกิน
- (Management overlay) รวม 2.3 พันลบ. ส่งผลให้ Credit cost รวมที่ 147 bps ใน 1H25 และเป็น Normal 110 bps เทียบกับเป้าหมายปี 2025 ที่ 125-135 bps
- Tax benefit คงหลือ 8.2 พ้นล้านบาท สามารถใช้ได้ถึงปี 2028 ทั้งนี้ TTB มีแผนเพิ่มความสามารถทำกำไร ด้วยกันทำ Cross selling และลดต้นทุนการดำเนินงาน พัฒนาระบบ IT เพื่อลดสัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้การดำเนินงาน (Cost to income ratio) รวมถึงการโตแบบ Inorganic model
- การซื้อกิจการ บล. ธนชาต แล้วเสร็จ 1 ก.ค. ใช้เงินลงทุนรวม 2.1 พันล้านบาท มีแผนจะทำ Cross selling ระหว่างลูกค้าของธนาคารและ บล. ธนชาต ซึ่งจะสามารถทำได้ทันทีในปี 2025
- โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” สินเชื่อที่เข้าเกณฑ์ราว 73 พันล้านบาท (6% ของสินเชื่อรวม) สิ้น ณ เดือน มิ.ย. สินเชื่อที่ได้เข้าโครงการมีราว 31 พันลบ. (42% ของ 73 พันลบ.) ส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัยและเช่าซื้อรถยนต์ โครงการช่วยชะลอการเป็นหนี้เสียเป็นดีต่อ ขณะที่แนวโน้มลูกหนี้เข้าโครงการจะลดลงทำให้ผลกระทบ
ค่อนข้างจำกัด และคาดผลกระทบโดยรวมต่อธนาคารปานกลาง
ความท้าทายทางเศรษฐกิจกดดันการเติบโตอ่อนแอ
- ความพยายามในการควบคุมต้นทุนการดำเนินงาน พัฒนาระบบ IT และเพิ่มผลตอบแทนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่มีเสถียรภาพต่อผู้ถือหุ้น แม้คาดว่ากำไรในปี 2025-26 จะปรับลดลง เราคาดว่า TTB จะสามารถจ่ายเงินปันผลได้เท่ากับที่ 0.13 บาท/หุ้น ในปี 2024 ด้วยการเพิ่ม Payout ratio ดังนั้น คาดผลตอบแทนเงินปันผลสูง 6.7% รวมทั้ง โครงการซื้อหุ้นคืนปีละ 7 พ้นล้านบาท จะช่วยลดผลกระทบความผันผวนราคาหุ้นในระยะยาว