บล.กสิกรไทย:

Ground Transportation Sector : ท่องเที่ยวอ่อนแอส่งผลต่อจำนวนผู้โดยสาร

มีอะไรใหม่?

1. การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กำลังเตรียมเปิดประมูลโครงการเดินรถและบำรุงรักษา (O&M) รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ภายใต้สัญญาร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) ในช่วงกลางปี 2569 มูลค่าโครงการรวม 1 แสนลบ. โดยคาดว่าจะมี BTS BEM และ Asia Era One เข้าร่วมประมูล โดยคาดว่าระยะแรกจะเริ่มดำเนินการในปี 2572 และระยะที่สองในปี 2574

2. สำนักงานอัยการสูงสุดอยู่ระหว่างการพิจารณาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โดยจะนำเสนอต่อคณะกรรมการ รฟท. ในวันที่ 17 ก.ค. และคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในเดือน ก.ย. เพื่อเริ่มการก่อสร้าง

3. นโยบายค่าโดยสารรถไฟฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ส่งผลกระทบต่อสมมติฐานรายได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การเจรจาเงื่อนไขการแบ่งปันผลประโยชน์กับภาคเอกชนใหม่

  • อัปเดตการจราจร ปริมาณการจราจรทั้งระบบรถไฟฟ้าและทางด่วนลดลง YoY ในเดือน มิ.ย. ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าหดตัวลง 15% YoY โดย BEM รายงานปริมาณผู้ใช้ทางด่วนเฉลี่ยอยู่ที่ 1.1 ล้านเที่ยวต่อวัน (-1.5% YoY และ +7.3% MoM คิดเป็น 88% ของปี 2562) ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ 3.6% ส่วนผู้โดยสารเฉลี่ยของรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินอยู่ที่405,000 เที่ยวต่อวัน (-1.5% YoY และ +7.3% MoM คิดเป็น 130% ของปี 2562) ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ 4% ขณะที่ BTSGIF รายงานจำนวนผู้สารเฉลี่ยของรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวหลักอยู่ที่ 405,800 เที่ยวต่อวัน (-1.8% YoY และ +6.6% MoM คิดเป็น 78% ของปี 2562) ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ 2.4% ขณะเดียวกัน กระทรวงคมนาคมรายงานจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยของรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลืองอยู่ที่ 44,800 เที่ยวต่อวัน (+28% YoY และ +5.5% MoM) ในเดือน มิ.ย. ทั้งนี้ ในเดือน มิ.ย.2567 มีจำนวนผู้โดยสารน้อยกว่าปกติจากอุบัติเหตุในช่วงเดือน มี.ค.2567 ส่วนจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยของรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพูอยู่ที่ 66,000 เที่ยว (+20% YoY และ +12.8% MoM) ปริมาณการจราจรบนทางด่วนของ DMT เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 0.1 ล้านเที่ยว (-6.1% YoY และ +0.5% QoQ) ต่ำกว่าที่เราคาดไว้ 6%
  • แนวโน้ม สำหรับครึ่งแรกของปี 2568 จำนวนผู้โดยสารของรถไฟฟ้า BTS และ BEM อยู่ที่ -0.3% YoY และ +0.7% YoY ตามลำดับ ต่ำกว่าที่ประมาณการทั้งปีของเราเล็กน้อยที่ +0.8% และ +2.4% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการท่องเที่ยวที่อ่อนแอ หากนโยบายค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ต.ค. น่าจะช่วยกระตุ้นจำนวนผู้โดยสารและรายได้ค่าโดยสารของ BTS และ BEM ในขณะเดียวกัน ยังจะช่วยสนับสนุนธุรกิจโฆษณาและธุรกิจค้าปลีกเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบของปริมาณการจราจรที่ต่ำคาดในประมาณการกำไรปกติปี 2568 ของเราได้บางส่วน สำหรับทางด่วนในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ปริมาณการจราจรของ BEM ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ไว้เล็กน้อย (คลาดเคลื่อนน้อยกว่า 1%) โดยอิงจากสมมติฐานการเติบโตที่ทรงตัว YoY ปริมาณการจราจรบนทางด่วนของ DMT ลดลง 6% YoY เมื่อเทียบกับที่ประมาณการทั้งปีของเราที่ลดลง 3% ตามการท่องเที่ยวที่อ่อนแอและการปรับขึ้นอัตราค่าผ่านทาง ซึ่งหมายความว่ากำไรปกติปี 2568 ของเรามีความเสี่ยงที่จะลดลง 4% และมูลค่าหุ้นจะลดลง 0.4 บาท/หุ้น (หรือ 3% ของราคาเป้าหมายของเราที่ 12.6 บาท) แต่เราคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าที่ลดลงจะบรรเทาลงในช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งหลังของปี
  • มุมมองเชิงบวก มุมมองเชิงบวก เราคงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มขนส่งภาคพื้นดิน โดยมี BEM เป็นหุ้นเด่นของเรา ปัจจัยเพิ่มตัวคูณมูลค่าหุ้นของกลุ่มธุรกิจนี้ประกอบด้วย 1) ผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมที่สูงกว่าคาดจากมาตรการ 20 บาทตลอดสายของรัฐบาล และ 2) ความสามารถของรัฐบาลในการผ่านร่าง พรบ.งบประมาณปี 2569 ได้ทันเวลา 3) การเปิดโครงการพัฒนาตามเส้นทางรถไฟฟ้า เช่น โครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค เฟส 2 ในวันที่ 4 ก.ย. และ 4) โครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพู ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีชมพู ในช่วงที่มีงานอีเว้นท์หนาแน่นที่เมืองทองธานีในไตรมาส 3-4/2568 เราชอบ BEM มากกว่า BTS เนื่องจากมีความยืดหยุ่นในการปรับตัวท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและกระแสเงินสดที่มั่นคง
  • หุ้นเด่น BEM “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 9.75 บาท

- Advertisement -