บล.กรุงศรีฯ:
เก่งหลังเกมส์
SET Index เพิ่มขึ้น 1.55 จุด (+0.13%) ปิดที่ระดับ 1,208 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.3 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับขึ้น 224 บริษัท, หุ้นปรับลง 215 บริษัท) โดยมี Sector ที่ปรับขึ้นหนุนดัชนี คือ กลุ่มอิเล็กฯ (DELTA), กลุ่มธนาคาร (SCB, KTB, KKP), กลุ่มน้ำมัน, โรงกลั่น (PTT, PTTEP, TOP) และกลุ่มไฟแนนซ์ (KTC, MTC, SAWAD) ส่วน Sector ปรับลงกดดัชนี คือ กลุ่ม ICT (TRUE, ADVANC), กลุ่มท่องเที่ยว (AOT, MINT, ERW) และกลุ่มปิโตรฯ (PTTGC, IVL)
หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ
KKP (+5.21%) ปรับขึ้นรับงบ 2Q25 โตแรงมีกำไรสุทธิ 1.41 พันล้านบาท +33%q-q และ 83%y-y นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของเรามีมุมมองบวกเพราะกำไรที่ออกมาดีดังกล่าวดีกว่าที่เราคาดไว้ 30% คุณภาพสินทรัพย์ดี NPL ลดลง เป็น 4.3% จาก 4.4% ใน 1Q25 ขาดทุนรถยึดลดลงเหลือ 594 ล้านบาท จาก 639 ล้านบาทใน 1Q25 และ 1,700 ล้านบาทใน 2Q24 นักวิเคราะห์ของเราจะทบทวนประมาณการอีกครั้งหลังเข้าประชุมนักวิเคราะห์ในวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค. 2025)
SCB (+1.68%) งบ 2Q25 ไม่ได้แย่อย่างที่กังวล มีกำไรสุทธิ 1.28 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 2%q-q และ 28%y-y ดีกว่าที่เราและ Consensus คาด 23% และ 17% ตามลำดับ หนุนจากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ดีกว่าที่คาดโดยมี NPL 3.31% ลดลงจาก 1Q25 ที่ 3.45% และดีกว่าที่เราคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.55%
KTC (+2.7%), MTC (+3.29%), SAWAD (+3.74%) KTC ปรับขึ้นเด่นรับงบ 2Q25 ออกมาดี NPL ปรับตัวลง และมีข่าวเสนอลดค่าจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำจาก 8% เป็น 5% ในขณะเดียวกันนักลงทุนยังเข้าซื้อหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ MTC, SAWAD คาดหวังผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่จะดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย อาทิ ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
TOP (+5), SPRC (+0.95%) คาดว่าจะได้ประโยชน์จากข่าว EU คว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซียรอบใหม่รวมถึงคว่ำบาตรบรรดาโรงกลั่นน้ำมันที่ซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซียและส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปไปขายใน EU ปัจจัยนี้ผลักดันให้ดีเซลสเปรดในยุโรปและสิงคโปร์ปรับขึ้นหนุนแรงเก็งกำไรโรงกลั่น โดยเฉพาะ TOP ซึ่งมีสัดส่วนการกลั่นน้ำมันดีเซลได้มากที่สุดของกลุ่ม
PTTGC (-1.78%) นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของเราออกบทวิเคราะห์เช้านี้ คาดงบ 2Q25 ชะลอตัว โดยจะมีผลขาดทุนประมาณ 3,222 ล้านบาท เทียบกับมีกำไรสุทธิ 1,846 ล้านบาทใน 2Q24 และขาดทุนเพิ่มขึ้นจาก 1Q25 ที่ขาดทุนสุทธิ 2,567 ล้านบาท
