บล.กรุงศรีฯ

เก่งหลังเกมส์

SET Index ร่วง 16.38 จุด (-1.36%) ปิดที่ระดับ 1,192 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.9 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับลง 381 บริษัท, หุ้นปรับขึ้น 115 บริษัท) Sell on fact หลังตลาดปรับขึ้นรับข่าวแต่งตั้งผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ไปแล้ว Sector ปรับลงกดดัชนีวันนี้ คือ กลุ่มค้าปลีก (CPALL, HMPRO, CPAXT), กลุ่มน้ำมัน (PTT, PTTEP), และกลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD) ส่วน Sector ที่ปรับขึ้น คือ กลุ่ม ธนาคาร (BBL, SCB และ KKP), กลุ่มเครื่องดื่ม  (OSP, CBG) และ วัสดุก่อสร้าง (SCC, TOA)

หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ

KKP (+4.46%) Outperform กลุ่ม และ ตลาด ตอบรับงบ 2Q25 ดีเกินคาด ในขณะที่วันนี้มี Analyst meeting โทนเป็นบวก โดยเฉพาะผลขาดทุนรถยึดที่เคยกดดัน KKP มาตลอดมีสัญญาณดีขึ้น (ขาดทุนลดลง) ส่งผลให้ credit cost ลดลงจากเดิม 2.2-2.4 bps. เหลือ 1.8-2.0 bps. มี growth story จากข่าวจับมือ Goldman Sachs ทำ multi asset ขยายสินเชื่อสู่กลุ่ม global product ส่วนประเด็นชนะคดีหุ้น MORE รอความชัดเจนของคดี (หากถึงที่สุดมีโอกาสบันทึกกลับราว 700 ล้านบาท)

OSP (+2.45%), CBG (+3.59%) OSP meeting มีสัญญาณบวกบริษัทลดการโฟกัสกลุ่มผลิตภัณฑ์ 10 บาทลดลง (ลดการโปรโมต) สะท้อน price war ในกลุ่ม energy drink มีสัญญาณผ่อนคลายมากขึ้นเป็นผลดีต่อทิศทางกำไรของกลุ่ม (CBG, OSP) ผสานกับวันนี้ราคาน้ำตาลในตลาดโลกลดลง 2.68%d-d สู่ระดับ 16.37$/lb เป็นจิตวิทยาบวกหนุนกลุ่มเครื่องดื่ม (SAPPE มีน้ำตาลเป็นวัตถุดิบราว 10% ของต้นทุนรวม, CBG และ OSP มี 6% และ 5% ตามลำดับ) 

MTC (-4.46%), SAWAD (-7.22%) Sell on fact จากข่าวตั้งผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ ประกอบกับ MTC มีปัจจัยกระทบ Sentiment เฉพาะตัวจากข่าวเปิดขายหุ้นกู้ต่างประเทศวงเงิน 350 ล้านดอลลาร์ อัตราดอกเบี้ย 7.55% ซึ่งสูงกว่าเมื่อเทียบกับหุ้นกู้ในลักษณะเดียวกันที่ออกขายเมื่อเดือน ก.ย. ปีที่ผ่านมาซึ่งให้ดอกเบี้ย 6.875% 

BCPG (-10.34%) วันนี้มี Analyst meeting โทนเป็นลบคาดงบ 2Q25 ไม่ดี มีโอกาสบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษ (extra items) สูงถึง 800 ล้านบาท จากการตั้งด้อยค่ากังหันลมโครงการ Nabas 2 มูลค่า 600 ล้านบาท และ การตั้ง impairment หนี้ EDL มูลค่า 100 ล้านบาท รวมถึงมีผลขาดทุนจาก FX ประมาณ 100 ล้านบาท 

- Advertisement -