บล.ฟินันเซีย ไซรัส:
OSOTSPA (OSP TB)
ความกังวลต่อ 10 บาทเริ่มผ่อนคลาย
- คาดว่ากำไรปกติ 2Q25 จะโต q-q และ y-y ดีกว่าที่เคยคาด
- แม้ส่วนแบ่งตลาดยังไม่เพิ่มขึ้น แต่รายได้เริ่มฟื้นตัว พร้อมมุ่งไปที่การเพิ่มอัตรากำไรอย่างต่อเนื่อง
- คงคำแนะนำซื้อที่ราคาเป้าหมาย 24 บาท
กำไรปกติ 2Q25 ดูดีกว่าที่เคยคาด
เราคาดกำไรปกติ 2Q25 อยู่ที่ 986 ลบ. (+1.6% q-q, +6.8% y-y) อย่างไรก็ดี กำไรสุทธิน่าจะลดลง 22% q-q เนื่องจากไตรมาส 1Q25 มีกำไรพิเศษจากการขายโรงงานในพม่า ประมาณการกำไรปกติดังกล่าวดีกว่าที่เคยคาดจากอัตรากำไรขั้นต้นที่คาดว่าจะสูงขึ้น โดยอาจแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 40.8% (เทียบกับ 40.3% ใน 1Q25 และ 38.2% ใน 2Q24) จาก Product mix ที่ดี ประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้น และต้นทุนรวมที่ลดลง โดยเฉพาะจากน้ำตาลและก๊าซธรรมชาติ (-4.5% q-q, -0.6% y-y) นอกจากนี้ OSP ยังสามารถคงค่าใช้จ่ายไว้ได้ตามแผน แม้ว่าจะมีการทำการตลาดเพื่อเปิดตัวสินค้าใหม่
ส่วนแบ่งตลาดยังไม่เพิ่มแต่รายได้น่าจะฟื้นตัว
เราคาดว่ารายได้รวมใน 2Q25 จะสูงขึ้น 2% q-q แต่ลดลง 5% y-y รายได้ต่างประเทศน่าจะโต 8% y-y แต่ลดลง 12% q-q จากปัจจัยด้านฤดูกาล รายได้เครื่องดื่มในประเทศน่าจะฟื้นตัว 10% q-q แต่ยังลดลง 8% y-y เนื่องจากปรับสต๊อก M-150 แล้วเสร็จในเดือน เม.ย. จากข้อมูลของ AC Nielsen ส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของ OSP ใน 2Q25 อยู่ที่ 44.5% (-0.3% m-m) ผู้บริหารระบุว่าตัวเลขดังกล่าวอาจไม่ได้สะท้อนยอดขายที่แท้จริงอย่างเต็มที่ แต่ข้อมูลในระดับสินค้าดูจะสอดคล้องกัน ทั้งนี้ ส่วนแบ่งตลาดของ M-150 (10 บาท, ฝาเหลือง) เพิ่มขึ้นเป็น 3.2%, M-150 (12 บาท, ฝาทอง) ลดลงเล็กน้อย ในขณะที่ M-Blue (10 บาท) ยังทรงตัว
OSP ให้ความสำคัญกับอัตรากำไร สินค้าราคา 10 บาทเป็นเพียงทางเลือก
สัดส่วนรายได้เครื่องดื่มชูกำลังในประเทศอยู่ที่ 80% (12 บาท) : 20% (10 บาท) แม้ว่าสินค้าราคา 12 บาทจะสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้แก่สินค้าราคา 10 บาท ตัวเลขที่ลดลงยังน้อยกว่าที่บริษัทฯ คาดบริษัทฯ ยังคงเน้นไปที่กลุ่มราคา 12+ บาท โดยวางตำแหน่งสินค้าราคา 10 บาทเป็นทางเลือกในด้านความคุ้มค่าสำหรับผู้บริโภคที่มีความอ่อนไหวในด้านราคา ผู้บริหารตั้งเป้าเลือกรักษาอัตรากำไรมากกว่าการแย่งส่วนแบ่งตลาด เรามีมุมมองเชิงบวกต่อกลยุทธ์ดังกล่าว เนื่องจากมันอาจช่วยลดความกังวลของนักลงทุนที่ว่าการบุกตลาดสินค้าราคา 10 บาทอาจบั่นทอนอัตรากำไร
คงคำแนะนำซื้อ ความกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันกันเองลดลง
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติปี 2025 ของเราขึ้น 17.5% เป็น 3.55 พันลบ. (+17% y-y) โดยคาดว่ากำไร 2H25 จะลดลง h-h จากปัจจัยด้านฤดูกาล แต่ยังโต y-y เราคงราคาเป้าหมายของเราที่ 24 บาท ในขณะที่ลด Target P/E ลงเหลือ 20x (จาก 22x) เพื่อสะท้อนการเติบโตที่อยู่ในระดับปกติมากขึ้นในช่วง 3 ปีข้างหน้า
เราคงคำแนะนำซื้อ โดยมีปัจจัยหนุนจาก 1) แนวโน้มการเติบโตของกำไรที่มั่นคง และ 2) ความสามารถของ OSP ในการรักษาอัตรากำไร แม้ว่าสินค้าราคาที่ต่ำกว่าจะมีเพิ่มขึ้น ผลประกอบการที่ดีในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่ากลุ่มสินค้าราคา 12 บาทไม่ได้แข่งขันกันเองอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งช่วยลดความกังวลของตลาดก่อนหน้า