บล.ฟินันเซีย ไซรัส: 

GLOBAL POWER SYNERGY (GPSC TB)

คาดกำไร 2Q25 ยังแข็งแกร่ง

  • คาดกำไรสุทธิ 2Q25 เพิ่มขึ้นทั้ง q-q, y-y เป็นผลหลักจากกำไร FX มากจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ไต้หวัน และส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจาก CFXD และ XPCL
  • คงคาดกำไรสุทธิปี 2025 เติบโต 16.5% y-y หนุนโดยส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่แข็งแกร่งขึ้น และขาดทุนจากสต๊อกถ่านหินที่ลดลงที่ GHECO-1
  • คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 36 บาท

คาดกำไร 2Q25 เพิ่มขึ้นมาก จากกำไร FX และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม

คาดกำไรสุทธิ 2Q25 ที่ 1.86 พันลบ. เพิ่มขึ้น 63% q-q และ 30% y-y หลักๆ จากกำไรอัตราแลกเปลี่ยน (~397 ล้านบาท จากเงินกู้สกุล USD จากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ไต้หวัน) และส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าไซยะบุรี (XPCL) และโรงไฟฟ้าลมไต้หวัน (CFXD) หากไม่รวม FX กำไรปกติจะอยู่ที่ 1.46 พันลบ. เพิ่มขึ้น 27% q-q และ 3% y-y โดย Avaada มีแนวโน้มส่งผลบวกต่อกำไรหลังจาก COD โรงไฟฟ้า 400 MW ตั้งแต่กลาง 1Q25 ขณะที่ XPCL ได้แรงหนุนจากปริมาณน้ำที่สูงขึ้น (ปรากฏการณ์ La Niña) ส่วน CFXD ได้รับกำไรจาก FX แม้การดำเนินงานยังอ่อนแอ ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้า SPP คาดจะมี margin ทรงตัว แม้ Ft ลดลง 11 สตางค์ เหลือ 19.72 บาท/หน่วย โดยได้แรงหนุนจากราคาก๊าซ (-4% q-q) และราคาถ่านหิน (-10% q-q) ที่ลดลง ขณะที่ผลประกอบการ GHECO-1 คาดทรงตัวจากการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเต็มไตรมาส ช่วยชดเชยการขาดทุนจากสต๊อกถ่านหินที่เพิ่มขึ้น และยังมีแรงหนุนจากต้นทุนทางการเงินที่ลดลงตามต้นทุนเงินทุนที่ลดลงด้วย

แนวโน้ม 3Q25 น่าจะทรงตัว q-q และเพิ่มขึ้น y-y

เราคาดว่ากำไรสุทธิ 3Q25 จะทรงตัว q-q จากการไม่มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่อาจจะมีบันทึกกำไรจากการขายหุ้น 3.03% ใน AEPL (โครงการ Avaada ในอินเดีย) มูลค่า 79 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งอาจช่วยชดเชยผลกระทบบางส่วน อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบ y-y กำไรยังคงได้แรงหนุนจากการเดินเครื่องเต็มกำลังของกำลังการผลิต 400 MW ของ Avaada และการขาดทุนจากสต๊อกถ่านหินที่ลดลงของ GHECO-1 รวมถึง CFXD คาดว่าจะพลิกกลับมามีกำไรจากการดำเนินงาน แม้ไม่มีอัตราแลกเปลี่ยนช่วยเสริม และด้วยอัตรา Ft และต้นทุนเชื้อเพลิงที่น่าจะทรงตัว q-q กำไรของโรงไฟฟ้า SPP จึงน่าจะยังคงอยู่ในระดับที่มั่นคง

คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2025-27

เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2025-2027 ที่ 4.7 พันลบ. โดยคาดกำไรสุทธิปี 2025 อยู่ที่ 4.7 พันลบ. เพิ่มขึ้น 16.5% y-y, ปี 2026 อยู่ที่ 5.3 พันลบ. เพิ่มขึ้น 12.9% y-y และปี 2027 เท่ากับ 5.9 พันลบ. เพิ่มขึ้น 10.2% y-y โดยอิงจากสมมติฐานค่าไฟเฉลี่ยที่ 4 บาท/kWh ตลอดช่วงปี 2025-2027 ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของเราต่อการฟื้นตัวของอัตรากำไรและการเติบโตของกำไรภายใต้เงื่อนไขค่าไฟที่เอื้ออำนวยมากขึ้น

มีโอกาส upside เพิ่มเติมจากอัตราดอกเบี้ยและราคาก๊าซที่ปรับตัวลดลง

ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2025 ที่ 36 บาท โดยมองว่าความเสี่ยงด้านค่าไฟฟ้าได้สะท้อนอยู่ในราคาหุ้นแล้ว ขณะที่ upside เพิ่มเติมอาจมาจากราคาก๊าซที่ลดลงและอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลง

 

- Advertisement -