บล.ทิสโก้:
Osotspa (OSP TB)
คาดกำไรหลัก Q2 เพิ่มขึ้น YoY และทรงตัว QoQ จาก energy drink ในประเทศเพิ่มขึ้น แต่ส่งออกเมียนมาลดลง
แนวโน้มกำไรหลัก 2Q25F เติบโต YoY และทรงตัว QoQ จาก energy drink ในประเทศเพิ่มขึ้นแต่ส่งออกลดลงตามปัจจัยฤดูกาล อัตราทำกำไรเพิ่มขึ้นทำสถิติใหม่สูงสุดจากประสิทธิภาพในการผลิต ส่วนแบ่งการตลาดรวมของกลุ่ม M-150 ลดลงจาก 30bps QoQ อยู่ที่ 44.5% แต่ทรงตัวเทียบกับ ธ.ค.24 เราคาดส่วนแบ่งการตลาดจะเริ่มดีขึ้นตั้งแต่ 3Q25F เป็นต้นไป จากการปรับลดสต๊อกสินค้าจบลงแล้ว และการทำการตลาด M-150 เพิ่มขึ้น และมีแผนจะออกสินค้าพรีเมียม “ลิโพ” ราคา 15 บาท และเน้นทำการตลาด M-150 Sparkling เพิ่มขึ้น เราปรับประมาณการเพิ่มขึ้นสะท้อนผลประกอบการ 1H25F มากกว่าที่คาดไว้ ราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 22.7 บาท
คาดกำไรสุทธิ 2Q25F เพิ่มขึ้น YoY ลดลง QoQ
เราคาดกำไรสุทธิ 2Q25F ที่ 1,015 ล้านบาท (+68% YoY, -20% QoQ) โดยหากไม่รวมรายการพิเศษใน 2Q24 บันทึกการตั้งด้อยค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ และใน 1Q25 บันทึกกำไรจากการขายธุรกิจขวดแก้วในเมียนมา กำไรหลักจะเพิ่มขึ้น 10% YoY และทรงตัว QoQ โดยรายได้รวมลดลง 6% YoY แต่เพิ่มขึ้น 1% QoQ มาจาก 1) กลุ่มเครื่องดื่มลดลง YoY และทรงตัว QoQ โดยแบ่งเป็น energy drink ในประเทศลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ จากการปรับลดลงสต๊อกสินค้าราคา 12 บาทต่อเนื่องในเดือน เม.ย. แต่ พ.ค.-มิ.ย. เริ่มกลับมาปกติ ส่วนแบ่งการตลาดลดลงเล็กน้อย 30bps อยู่ที่ 44.5% จาก 1Q25 ที่ 44.8% สำหรับ energy drink ต่างประเทศคาดเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ โดยเฉพาะในเมียนมาตามปัจจัยฤดูกาลและผลกระทบในการขนส่งจากแผ่นดินไหว 2) ธุรกิจ personal care คาดเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ จากการออกพัฒนาสินค้าใหม่ในกลุ่ม Babi mild 3) ธุรกิจ OEM รับจ้างผลิตสินค้าขวดคาดลดลง -33% YoY และทรงตัว QoQ จากการปิดโรงงานขวดแก้วก่อนหน้านั้นและการเน้นผลิตให้สินค้าตนเองมากขึ้น อัตราทำกำไรขั้นต้นคาดเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 41.5% ทำสถิติใหม่สูงสุด จากการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น และต้นทุนวัตถุดิบและแพคเกจจิ้งที่ลดลง ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย YoY และทรงตัว QoQ จากการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
ปรับประมาณการเพิ่มขึ้นสะท้อนอัตราทำกำไรดีกว่าที่คาด
แนวโน้ม 3Q25F เราคาดจะเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาลการส่งออกลดลงเป็นหลัก ส่งผลอัตราทำกำไรลดลง และคาดกำไรสุทธิครึ่งปีหลังจะอ่อนจากครึ่งปีแรกจากปัจจัยฤดูกาลของการส่งออกที่ลดลง คาดอัตราทำกำไรลดลงจากสัดส่วนการส่งออกที่ลดลงเทียบกับครึ่งปีแรก เราปรับประมาณการกำไรหลักปี 2025-26F เพิ่มขึ้นจากคาดเดิม 21% และ 28% จากการปรับอัตราทำกำไรเพิ่มขึ้นเป็นหลัก โดยคาดรายได้กลุ่มเครื่องดื่ม energy drink ปี 2025F เพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากการปรับลดสต๊อกสินค้าราคา 12 บาท ในช่วง 4 เดือนแรกของปีและคาดส่วนแบ่งการตลาด M-150 ในประเทศจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 3Q25F เป็นต้นไป จากการทำการตลาดเพิ่ม M-150 ราคาปลีก 10 บาท ดึงส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้น สำหรับธุรกิจ Personal care เราคาดเติบโตปีละ 5% จากการออกสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น คาดอัตราทำกำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นเป็นหลักจากการบริหารจัดการควบคุมต้นทุนเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และต้นทุน packaging ที่ลดลง คาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา จากการควบคุมค่าใช้จ่าย
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 22.7 บาท
จากการปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่ เน้นขยายตลาด Traditional trade เพื่อดึงส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น ราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 22.7 บาท อ้างอิง PER forward -1SD ของ OSP อยู่ที่ 20X จากกลุ่มเครื่องดื่มพลังงานในประเทศและธุรกิจ Personal Care มีการแข่งขันสูง ราคาหุ้นปัจจุบันมี PER25F อยู่ที่ 13.7X Dividend Yield 25F อยู่ที่ 7.3%
โอกาส: การขยายตลาดส่งออก
ความเสี่ยง: ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด, ต้นทุน commodities ที่สูงขึ้น, เศรษฐกิจชะลอตัว