บล.ฟินันเซีย ไซรัส:

SEAFCO (SEAFCO TB)

คาด 2Q25 พลิกกำไร ทิศทาง 3Q25 เร่งตัวต่อ

  • ประเมินงบ 2Q25 พลิกกลับเป็นกำไรจากขาดทุนใน 1Q25 และโตแรง y-y ผลักดันจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม 4 สถานี
  • คาดกำไร 3Q25 เร่งขึ้นเป็นจุดสูงสุดของปีจากการขุดเจาะสายสีส้มเต็มที่ 5 สถานี
  • คงคำแนะนำซื้อ หนุนจากโมเมนตัมกำไรที่เร่งขึ้นดีใน 2Q-3Q25

รถไฟฟ้าสายสีส้มขับเคลื่อนงบ 2Q25 พลิกมีกำไร

เราประเมินรายได้ก่อสร้างใน 2Q25 เร่งขึ้นเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 ไตรมาสที่ 410 ล้านบาท (+202% q-q, +56% y-y) ผลักดันจากการเดินหน้าก่อสร้างโครงการใหญ่อย่างรถไฟฟ้าสายสีส้มเพิ่มเป็น 4 สถานี เทียบกับ 1Q25 ที่เริ่มเพียง 1 สถานีในช่วงปลายไตรมาส โดยทยอยเริ่มงานขุดเจาะซึ่งเป็นงานหลักได้ตั้งแต่เดือน เม.ย.-พ.ค. นอกเหนือจากการเร่งขึ้นของรายได้ที่เป็นบวกด้าน Economy of scales ยังได้แรงหนุนจากการรับรู้งานรถไฟฟ้าซึ่งเป็นงานรับเฉพาะค่าแรงที่มาร์จิ้นสูง ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นใน 2Q25 คาดปรับขึ้นเป็น 20.5% สูงสุดในรอบ 5 ไตรมาส (เทียบกับ -36.7% ใน 1Q25 และ 12.1% ใน 2Q24) ขณะที่ค่าใช้จ่ายอื่นยังควบคุมได้ดี ทำให้เราประเมินผลประกอบการ 2Q25 พลิกเป็นกำไรสุทธิ 36 ล้านบาท หลังจากขาดทุนติดต่อกัน 3 ไตรมาสก่อนหน้า (เทียบกับขาดทุน -62 ล้านบาทใน 1Q25 และกำไร 6 ล้านบาทใน 2Q24)

แนวโน้มกำไร 3Q25 เร่งขึ้นเป็นไตรมาสดีที่สุดของปี

แนวโน้มผลประกอบการ 3Q25 คาดเป็นไตรมาสดีที่สุดของปี จากการรับรู้งานก่อสร้างเต็มไตรมาสของรถไฟฟ้าสายสีส้ม 4 สถานี บวกกับอีก 1 สถานีซึ่งคาดเริ่มขุดเจาะได้ในเดือน ส.ค.-ก.ย. ซึ่งจะหนุนให้รายได้คาดเร่งขึ้นเหนือ 500 ล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้นปรับขึ้นดีเป็น 20-25% เบื้องต้นเราประเมินกำไร 3Q25 ระดับ 60-70 ล้านบาท เร่งขึ้น 90% q-q และพลิกจากขาดทุน -11 ล้านบาทใน 3Q24 ขณะที่ 4Q25 แม้รายได้มีโอกาสอ่อนลง q-q ตามปัจจัยฤดูกาลที่มีวันหยุดยาวจำนวนมาก แต่คาดกำไรยังอยู่ระดับดีและสูงกว่า 2Q25

Backlog แข็งแกร่ง มีโอกาสรับงานใหม่เติมในปลายปี

Backlog ปัจจุบันแข็งแกร่ง 2.2 พันล้านบาท หลักๆ จากรถไฟฟ้าสายสีส้มซึ่งทยอยรับรู้ถึง 1H26 แม้ในระยะสั้นบริษัทมีประเด็นจำนวนแรงงานที่ตึงตัวซึ่งเป็นข้อจำกัดการรับงานเพิ่ม อย่างไรก็ดี หลายโครงการใหญ่ขนาดกลางเริ่มเข้าสู่ช่วงปลายงาน ซึ่งจะทำให้เพิ่มศักยภาพในการรับงานใหม่มากขึ้น โดยโครงการที่มีโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วม อาทิ มอเตอร์เวย์, ทางด่วน Double Deck ซึ่งอาจมีความคืบหน้าใน 2H25-1H26 เป็นส่วนช่วยหนุนรายได้ปี 2026

คงราคาเหมาะสม 3 บาท ยังแนะนำซื้อ ฐานะหุ้น Turnaround

เราคงประมาณการกำไรปี 2025 ที่ 148 ล้านบาท ฟื้นตัวแรงจาก 1 ล้านบาทในปี 2024 คงราคาเหมาะสม 3 บาท (อิง PBV 1.5x) ยังแนะนำซื้อ จากทิศทางผลประกอบการ Turnaround ตั้งแต่ 2Q25 และเร่งขึ้นดีต่อใน 3Q25 อีกทั้ง Valuation ยังอยู่โซนต่ำ ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน PBV ที่ 1x หรือค่าเฉลี่ยในอดีต -1.5SD

Investment thesis

ในปี 2025 SEAFCO เข้าสู่โหมดของการฟื้นตัว มีแรงหนุนมาจาก Backlog ที่แข็งแกร่งระดับ 2.7 พันล้านบาทใน 1Q25 เพิ่มขึ้นจาก 1.8 พันล้านบาทในสิ้นปี 2024 หลักๆ มาจากการรับงานขนาดใหญ่อย่างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ประกอบด้วย 6 สถานี มูลค่ารวม 1.9 พันล้านบาท ซึ่งเป็นงานรับเฉพาะค่าแรงและมาร์จิ้นสูงกว่าปกติ เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปลาย 1Q25 และทยอยรับรู้ถึง 1H26 ผลักดันผลประกอบการคาดฟื้นตัวกลับมามีกำไรตั้งแต่ 2Q25 และเร่งขึ้นเด่นใน 3Q25 ทำให้จบปี 2025 กำไรคาดเติบโตสูงจากปี 2024

Company profile

SEAFCO ก่อตั้งในปี 1974 ประกอบธุรกิจหลักในงานเสาเข็มเจาะและกำแพงกันดิน มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 48 ปีในวงการธุรกิจเสาเข็มเจาะขนาดใหญ่ในประเทศและต่างประเทศ มีความชำนาญและเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปของผู้ออกแบบ บริษัทวิศวกรที่ปรึกษา และเจ้าของโครงการต่างๆ โดยบริษัทรับงานจากภาคราชการและภาคเอกชน ทั้งจากเจ้าของโครงการหรือรับงานช่วงต่อ (Subcontract) จากผู้รับเหมาก่อสร้างหลัก งานที่บริษัทให้บริการคือ งานเสาเข็มเจาะ, งานกำแพงกันดิน, งานก่อสร้างโยธา และงานบริการทดสอบต่างๆ ขณะที่แบ่งประเภทตามสายผลิตภัณฑ์ออกเป็นการรับเฉพาะค่าแรง และการรับงานรวมวัสดุ

www.seafco.co.th

Catalysts

ปัจจัยหนุนการเติบโตคือ การรับงานใหม่เข้ามาเติม โดยเฉพาะงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ อาทิ ทางด่วน Double Deck, มอเตอร์เวย์ รวมถึงงานเอกชนขนาดใหญ่

Risks to our call

ความเสี่ยงต่อประมาณการ 1) การเซ็นสัญญางานใหม่น้อยกว่าคาด 2) การเปิดประมูลงานใหม่ล่าช้า 3) ความไม่แน่นอนทางการเมือง 4) ความล่าช้าของการก่อสร้าง และปัญหา Cost overrun 5) ต้นทุนวัสดุก่อสร้างสูงขึ้น, การขาดแคลนแรงงาน และการปรับขึ้นค่าแรง 6) การแข่งขันรุนแรงกว่าคาด

 

- Advertisement -