บล.พาย:
BBL: Bangkok Bank PCL
เผชิญความท้าทายสูงขึ้นใน 2H25
เราคงคำแนะนำ “ถือ” ด้วยมูลค่าพื้นฐาน 149 บาท ประเมินด้วยวิธี GGM (ROE 7.5%, Terminal growth 2%) อิงกับ 0.48x PBV’25E ความเสี่ยงเศรษฐกิจสูงขึ้น ทำให้แนวโน้มภาระสำรองหนี้ฯ สูง โดยคาดกำไรสุทธิจะปรับลดลง 0.5% ในปี 2025 และลดลงต่อเนื่อง 5% ในปี 2026 กดดันให้ ROE ปรับอ่อนแอลงเหลือ 7.8%/7% ในปี 2025-26 แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2H25 คาดกำไรสุทธิจะอ่อนตัวลงทั้ง HoH และ YoY ซึ่งอาจเป็นแรงกดดันราคาหุ้น อย่างไรก็ดี เรามองว่างบดุลแข็งแกร่ง Valuation ไม่แพง และคาดผลตอบแทนเงินปันผล สูงราว 5.8% ในปี 2025 เป็นปัจจัยจำกัดความผันผวนสูงของราคาหุ้น
การประชุมนักวิเคราะห์
- ปรับลดการเติบโตเศรษฐกิจไทยเหลือ 1.5-2.0% ในปี 2025 (เดิม <2%) ผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวแนวโน้มชะลอตัวเทียบกับ 35.5 ล้านคนในปี 2024 ขณะที่อัตราภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นเพิ่มความท้าทายต่อการเติบโตส่งออกใน 2H25 ขณะที่มองว่าภูมิภาคอาเซียนได้รับประโยชน์มีเงินทุนใหม่ไหลเข้ามาในภูมิภาค โดยประเมินว่าธนาคารได้รับผลกระทบจำกัด เนื่องจากมีสัดส่วนสินเชื่อภาคการเกษตรที่ 80 พันลบ. (3% ของสินเชื่อรวม) และสัดส่วนสินเชื่อที่เกี่ยงโยงกับการส่งออกไปสหรัฐระดับ High single digit
- เป้าหมายการเงิน (1) สินเชื่อขยายตัว 3% (เป้าหมาย 3-4%) (2) ส่วน ต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ราว 2.8% (เป้าหมายที่ 2.8%-2.9%) บนสมมติฐานอัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับลดลง 1 ครั้ง ใน 2H25 (3) อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้การดำเนินงาน (CIR) แนวโน้มต่ำกว่าเป้าหมายที่ High-40s% (4) NPL ratio ที่ราว 3% แนวโน้มหนี้เสียจะเพิ่มขึ้นใน 3Q แต่ลดลงใน 4Q ส่วนหนึ่งจากการปรับโครงสร้างหนี้ และ 5) สำรองหนี้ฯ ใกล้เคียง 34.8 พันลบ. ในปี 2024 ทำให้ Credit cost สูงกว่าเป้าหมายที่ 90-100 bps ของสินเชื่อรวม เนื่องจากความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจที่สูงขึ้น
- ธนาคารมีเงินกองทุนแข็งแกร่งที่ 22% มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลต่อหุ้น (DPS) สูง แนวโน้ม DPS ในปี 2025 ใกล้เคียงกับในปี 2024 ที่ 8.50 บาท และไม่มีนโยบายการซื้อหุ้นคืน
- Permata มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง สินเชื่อขยายตัว 5% YTD ใน 1H25 เทียบเป้าหมาย 5-7% ในปี 2025 และ Coverage ratio สูงกว่า 300%
เศรษฐกิจท้าทายเพิ่มภาระสำรองหนี้ฯ อุดการเติบโตชะลอตัว
- BBL มีพื้นฐานการเงินแข็งแกร่งทั้ง Coverage ratio สูงที่ 284% และเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงสูง 22% รองรับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้นกระทบต่อการขยายตัว และที่สำคัญภาระสำรองหนี้ฯ ระดับสูง เราคาดว่ากำไรสุทธิจะลดลง 0.5% ในปี 2025 และลดลงต่อเนื่อง 5% ในปี 2026 นอกจากนี้ คาด ROE จะปรับลดลงที่ 7.8%/7% ในปี 2025-26
- เราตั้งสมมติฐาน Credit costs ในปี 2025 ที่ 130 bps ใกล้เคียงกับในปี 2024 และประเมินว่าทุก 10 bps ที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อประมาณการกำไรสุทธิในปี 2025 ของเราลดลง 5%