บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านเทคโนโลยีดิจิทัลระดับองค์กรเดินหน้าตอกย้ำบทบาท “Tech Enabler” ยกระดับศักยภาพบุคลากรและเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ผ่านการจัดงาน “SMT AI Hackamonth 2025 – สร้าง AI ที่เปลี่ยนโลก แม้อยู่ภายใต้ข้อจำกัด” เวทีแห่งการบ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์ เฟ้นหานักพัฒนา AI Solution ในองค์กร พร้อมต่อยอดสู่โอกาสเชิงธุรกิจ
นายอุกฤษฏ์ วงศราวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ และประธานบริหารสายงานโซลูชันและเทคโนโลยี บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินธุรกิจและชีวิตประจำวัน การเป็น Tech Enabler ไม่ใช่แค่การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ แต่คือการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการคิด สร้าง และลงมือทำจริง จีเอเบิลเชื่อว่า นวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่สามารถเกิดขึ้นได้ แม้มีข้อจำกัด หากเราเปิดพื้นที่ให้คนได้ลงมือ จึงเปิดตัวโครงการ SMT AI Hackamonth 2025 แพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้พนักงานได้ลงมือคิดและสร้างสรรค์ AI Product Solutions ที่ใช้งานได้จริง ภายใต้ความท้าทายของข้อจำกัดด้านเวลา ทรัพยากร และต้นทุน เพื่อพิสูจน์ว่าแนวคิดที่ดีและทีมที่พร้อม สามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ที่มีคุณค่าได้เสมอ”
SMT AI Hackamonth 2025 มีเป้าหมายเพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ เสริมทักษะการใช้ AI อย่างเป็นรูปธรรม และเฟ้นหาผลิตภัณฑ์ AI ที่สามารถต่อยอดเชิงธุรกิจได้จริงภายในองค์กร โดยใช้ Open-Source AI ผ่านแพลตฟอร์ม Allyx และ n8n บนระบบคลาวด์ของ AWS ซึ่งเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ที่มีโซลูชั่นหลากหลายสำหรับการพัฒนาและปรับใช้เทคโนโลยี AI และ Automation
ในโครงการนี้ AWS ซึ่งเป็นพันธมิตรธุรกิจที่สำคัญของ G-Able ได้ให้การสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคลาวด์ รวมถึง Services ต่างๆ ทั้งในด้าน Infrastructure, Security, Data, Automation และ AI เพื่อให้ทีมผู้เข้าแข่งขันได้ทดลองสร้าง AI Solution ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งมีการอบรมเสริมความเข้าใจด้าน Automation, AI และ Workflow Automation ตลอดจนเวิร์กชอป ด้าน Business Strategy เพื่อเชื่อมโยงความคิดสร้างสรรค์กับความเป็นไปได้เชิงธุรกิจ โดยได้รับการแชร์ประสบการณ์จากทีม Startup ที่มีผลงานจากภายนอก รวมทั้ง Pitching Day ที่เปิดเวทีให้พนักงานเสนอผลงาน AI Solution ที่สร้างสรรค์ขึ้น โดยได้รับเกียรติจากกรรมการซึ่งเป็นผู้บริหารที่มาจากหลากหลายอุตสาหกรรมร่วมให้คำแนะนำ
ในปีนี้ มีทีมเข้ารอบสุดท้าย 15 ทีม โดยแต่ละทีมได้นำเสนอ AI Use Case ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดขั้นตอนซ้ำซ้อน และเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ อาทิ การวิเคราะห์ TOR อัตโนมัติ การจัดการอีเมลและ Timesheet แบบอัตโนมัติ การสร้างระบบแชทบอทตอบลูกค้า 24/7 ตลอดจนการวิเคราะห์เสียงสนทนาเพื่อการติดตามหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของบุคลากร G-Able ที่สามารถพัฒนา AI ได้จริงภายใต้ข้อจำกัดที่มี
กิจกรรมนี้ยังได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญในโครงการ Digital CEO by DEPA มาอัปเดตเทรนด์ AI ล่าสุด และให้แนวทางการสร้างผลิตภัณฑ์ AI ที่สามารถเติบโตได้ในระดับเชิงพาณิชย์