ความไม่สงบไทยและกัมพูชาอาจกดดันตลาดหุ้นระยะสั้น

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 316 จุด (-0.7%) ถูกกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของ IBM แต่อย่างไรก็ตาม Nasdag , S&P500 ปิดทำ New High เพราะนักลงทุนมั่นใจว่า Alphabet ที่รายงานผลประกอบการดีกว่าคาดจะช่วยหนุนหุ้นอื่นๆ ในกลุ่ม AI ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.98% หลังสต๊อกน้ำมันลดลงมากกว่าคาด

Market Outlook

วันนี้ประเมิน SET เข้าสู่ช่วงของการพักตัวในกรอบ 1200 – 1220 ภาพรวมตลาด Price In ปัจจัยด้านเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับนานาประเทศไปในระดับหนึ่ง ประกอบกับก่อนหน้าตลาดหุ้นไทยฟื้นขึ้นมาจากจุดต่ำสุดราว 14% ขณะที่ตลาดหุ้นโลกก็เริ่มเคลื่อนไหวนิ่งๆ (Dow Jones -0.7% S&P500 +0.07%) ประกอบกับในประเทศเผชิญกับความไม่ลงบระหว่างไทยกับกับพูชาที่อาจสร้างแรงกดดันเชิงจิตวิทยาต่อการลงทุนในหุ้นไทย (ในระยะสั้น) แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับปัจจัยกัมพูชาและไทยนั้น เราเชื่อว่าไม่มีผลอย่างมีนัยยะในระยะกลางต่อตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ เพราะเศรษฐกิจไทยไม่มีการอิงกับกัมพูชาอย่างมีนัยยะ การส่งออกไปกัมพูชาคิดเป็นประมาณ 3.1% ของส่งออกไทยรวมทั้งหมด ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติคิดเป็นเพียง 1.6% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทย แต่อย่างไรก็ตามอาจมีผลกับบริษัทที่มีรายได้ในกัมพูชา อาทิ CBC (15% รายได้รวม) , SAV ที่มีรายได้หลักในกัมพูชา ส่วนเมื่อวานที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์รายงานมูลค่าส่งออกประจำเดือน มิ.ย. พบว่าขยายตัว 15.5%YoY แย่กว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 18.3%YoY อย่างไรก็ตามการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 หากไม่รวมสินค้าเกี่ยวข้องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวได้ 15.6%YoY ปัจจัยหนุนมาจากการชะลอมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ทำให้ผู้นำเข้าเร่งการนำเข้าสินค้าจากไทยมากขึ้นเพื่อปิดความเสี่ยงด้านราคาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ความต้องการสินค้า อิเล็กทรอนิกส์และชินส่วนเติบโตได้ดีตามการเติบโตของ อุตสาหกรรม Digital สำหรับสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรที่ขยายตัว ได้แก่ ไก่สดแช่แข็ง +16%YoY อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป (-1.5%YoY) เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+57%YoY) เครื่องจักรและส่วนประกอบ (+16%YoY) ประเมินเป็นบวกกับหุ้น DELTA HANA GFPT TFG ส่วนต่างประเทศเมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯยอดขายบ้านมือหนึ่งต่ำกว่าตลาดคาด , ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานดีกว่าตลาดคาด และ PMI ภาคผลิตที่ต่ำกว่าตลาดคาด ปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่คำสั่งซื้อ สินค้าคงทน Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ -10%MoM ในเชิงกุลยุทธ์การลงทุนนักลงทุนระยะสั้น อาจเลือกทยอยทำกำไรบางส่วนเนื่องด้วยตลาดที่ปรับขึ้นมาและปัจจัยพื้นฐานยังไม่สะท้อนมากนัก ยังไม่เห็นการปรับประมาณการกำไรตลาดขึ้นหรือแม้กระทังเศรษฐกิจ ขณะที่หุ้นไทยเริมเข้าสู่ช่วง Valuation ไม่ถูกเท่าใดนัก (Forward PE 13.5x) แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนระยะสั้นที่รับความเสี่ยงได้อาจเลือก Trading ในหุ้นที่มีปัจจัยหนุน อาทิ นิคมอุตสาหกรรม (AMATA WHA) ส่งออก (ITC TU) รอปัจจัยหนุนเจรจาการค้าระหวางไทยกับสหรัฐฯ กลุ่ม Detensive (BDMS) ปัจจัยหนุนความไม่สงบระยะสั้นจากไทยและกัมพูชา

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

BDMS (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 26.00 บาท)

ใน 2Q25 คาดกำไรสุทธิที่ 3.4 พันล้านบาท (+1% YoY, -22% QoQ) อ่อนตัวจากไตรมาสก่อนเนื่องจาก 1) ปัจจัยนอกฤดูกาลโรคระบาดท้องถิ่นที่ยังไม่มาก 2) จำนวนผู้ป่วยต่างชาติโดยเฉพาะจีนและกัมพูชาเดินทางมารักษาลดลง และ 3) คาดค่าใช้จ่ายทางภาษีที่เพิ่มขึ้นจากสิทธิประโยชน์ BOI ที่น้อยลง ทั้งนี้ใน 3Q25 เรามองว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวทั้ง YoY และ QoQ

WHA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 5.30 บาท)

การขายที่ดินยังทำได้ดี โดยคาดว่าจะออกมาเกินกว่าเป้าที่บริษัทคาดไว้ หลังจากในช่วง 1H25 ทำได้กว่า 1,200 ไร่ และมีการเจรจารอเซ็นสัญญาอีกกว่า 1,400 ไร่ ซึ่งยังไม่รวมลูกค้าในกลุ่ม Data Center ที่มีการเจรจาอีกกว่า 1,000 ไร่

- Advertisement -