KS Daily View 25 ก.ค. 2025>>> คาด SET Index ของไทยแกว่งตัว sideway ในกรอบ 1,200-1,225 จุด จากแรงกกดันของการพิพาท ณ ชายแดนของไทย และ ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาได้สะท้อนความคาดหวังของการเจรจาการค้าไทยไปแล้วบางส่วนแนะนำ TRUE GFPT

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวผสมผสาน ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.07%, Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.18%, แต่ Dow Jones ลดลง 0.70% โดยดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลังผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ Alphabet บริษัทแม่ของ Google กระตุ้นความเชื่อมั่นต่อหุ้นปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่อื่นๆ ขณะที่ Tesla ร่วงลงหลังจากผลประกอบการของต่ำกว่าความหวังของนักลงทุน

ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,212.49 จุด ลดลง 7.13 จุด (-0.58%) จากการปรับตัวลดลงของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, กลุ่มค้าปลีก, และกลุ่มสื่อสารหลังจากมีเหตุปะทะรุนแรงในชายแดนไทยและกัมพูชา ในวันนี้ เราคาดว่า SET Index ของไทยแกว่งตัว sideway ในกรอบ 1,200-1,225 จุด จากแรงกดดันของการพิพาท ณ ชายแดนของไทยกดดันการฟื้นตัวของตลาดหุ้นและอาจส่ง sentiment เชิงลบเล็กน้อยกับกลุ่มท่องเที่ยวของไทยจากความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว ในขณะเดียวกันตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาได้สะท้อนความคาดหวังของการเจรจาการค้าไทยไปแล้วบางส่วนซึ่ง SET index PER ระดับปัจจุบันอยู่ที่ 13.8 เท่ากึ่งกลางระหว่าง -0.5SD กับ -1SD จากค่าเฉลี่ย มองว่าหากอัตราภาษีออกมามากกว่าหรือเท่ากับ 30% อาจส่งผลให้ตลาดปรับตัวลดลง

ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ TRUE จากแนวโน้มของผลประกอบการ 2Q25 ที่จะออกมาแข็งแกร่ง และ GFPT จากยอดการส่งออกที่เติบโตได้ดี

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่มีการปะทะกันบางจุด ได้มีคำสั่งปิดปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย ขณะที่จังหวัดสระแก้วได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงและการยกเลิกที่พักในอำเภอชายแดน แต่พื้นที่อื่นในจังหวัดยังคงจัดกิจกรรมได้ตามปกติ มองเป็นจิตวิทยาเชิงลบเล็กน้อยกับกลุ่มท่องเที่ยว CENTEL ERW AWC SHR BA AAV
  2. ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากครั้งก่อนหน้า ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ หลังจากได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาแล้ว 8 ครั้งตั้งแต่เริ่มวงจรการลดดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน 2024  โดยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ 2.00% เงินกู้ที่ 2.40% และรีไฟแนนซ์ที่ 2.15% ขณะที่มุมมองการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนยังมีความเห็นที่แตกต่างกันจากความกังวลมุมมองเงินเฟ้อหลังสหรัฐเก็บภาษีนำเข้ากับสินค้า EU มองเป็น Proxy ของการปรับอัตราดอกเบี้ยของ กนง. ใน 2H25
  3. สนค.รายงานการส่งออกของไทยในเดือนมิถุนายนมีมูลค่า 28,649.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 15.5% YoY ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 โดยได้รับแรงหนุนจากการเร่งนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ จากความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนรวมไปถึงสินค้าเกษตรไทย โดยเฉพาะผลไม้ ไก่ สดและแช่แข็งที่เติบโตได้ดี ขณะที่การส่งออกยางของไทยทรงตัวจากเมื่อเที่ยบกับปีที่ผ่านมาแต่ลดลง 9% MoM มองเป็นบวกกับ KCE HANAN DELTA GFPT แต่เป็นลบกับ STA TEGH NER
  4. การบินไทยประกาศความพร้อมนำหุ้นกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันที่ 4 สิงหาคม หลังศาลล้มละลายกลางยกเลิกแผนฟื้นฟูกิจการ โดยบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการพลิกฟื้นภายใน 4 ปี ด้วยผลกำไรจากการดำเนินงานปี 2024 ที่ 41,515 ล้านบาท และ 1Q25 อีก 13,661 ล้านบาท พร้อมปรับโครงสร้างองค์กรและฝูงบิน เพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และขยายเส้นทางบิน
  5. เลขาธิการบีโอไอ เปิดเผยว่า แนวโน้มการลงทุนในไทยปี 2025 ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค.–มิ.ย.) มีการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวม 1,880 โครงการ เพิ่มขึ้น 38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่ารวม 1,058,225 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 138% YoY มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกกับ WHA และ AMATA
  6. ส.อ.ท. ปรับลดเป้าหมายการผลิตรถยนต์ในปี 2025 เหลือ 1.45 ล้านคัน จากเดิม 1.5 ล้านคัน โดยสาเหตุหลักมาจากการผลิตเพื่อส่งออกที่ลดลง 50,000 คัน เหลือ 950,000 คัน ขณะที่การผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศยังคงที่ที่ 500,000 คัน สอดคล้องกับยอดผลิตช่วงครึ่งปีแรกที่อยู่ที่ 724,715 คัน ลดลง 4.8% จากปีก่อน โดยเฉพาะการผลิตเพื่อส่งออกที่ลดลง มองเป็นลบกับ AH และ SAT

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

  • GFPT: ราคาพื้นฐาน 13.40 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ GFPT จากตัวเลขของการส่งออกของไก่สดและแช่แข็งในเดือน มิ.ย. เติบโตขึ้น 15.8% YoY หนุนโดยปริมาณการส่งออกที่เติบโตขึ้น ในขณะเดียวกันแนวโน้มผลประกอบการ 2Q25 แข็งแกร่งคาดที่ 591 ลบ. เพิ่มขึ้น 1.4% YoY หนุนโดยอัตรากำไรขั้นต้นแต่ลดลง 7.4% QoQ จากกำไรส่วนแบ่งจากบริษัทร่วม (JV) ที่ลดลง แต่แนวโน้มครึ่งหลังปี 2025 คาดว่าราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นประมาณ 6% สำหรับตลาดยุโรป และต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจะเป็นปัจจัยหลักที่สนับสนุนความสามารถการทำกำไรที่แข็งแกร่งใน 3Q25 และราคากากถั่วเหลืองเฉลี่ยในช่วงต้นเดือนก.ค. 2025 อยู่ที่ 15.6 บาท/กก. ลดลง 6.1% จากราคาเฉลี่ยใน 2Q25

  • TRUE: ราคาพื้นฐาน 13.16 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ TRUE และอุตสาหกรรมภายหลังการประมูลครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมาเราคาดแรงกดดันจากปัจจัยลบของอุตสาหกรรมในระยะกลางระยะสั้นหมดลง จนกระทั่งประมูลรอบใหม่ปลายปี 2027 โดยเรามองอุตสาหกรรมจะกลับมา healthy และการแข่งขันที่ไม่รุนแรงตามแบบตลาด Duopoly เรามองเรื่อง cost saving ของ TRUE จากการ synergy ภายหลัง amalgamation จะเป็น potential upside มากกว่าจากทั้ง network modernization ที่จะเสร็จใน 3Q25

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันศุกร์  ติดตาม คำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ (Durable goods orders) เดือน มิ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ -10.3% MoM เร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ +16.4% MoM
- Advertisement -

บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากผู้เขียน