บล.กรุงศรีฯ:
เก่งหลังเกมส์
SET Index เพิ่มขึ้น 4.66 จุด (+0.38%) ปิดที่ระดับ 1,217 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3.69 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับขึ้น 215 บริษัท, หุ้นปรับลง 219 บริษัท) นักลงทุนเน้นเก็งกำไรหุ้นรายตัว นักลงทุนบางส่วนขายลดเสี่ยงจากความไม่แน่นอนในช่วงหยุดยาว 3 วัน โดยมี Sector ที่ปรับขึ้นหนุนดัชนี คือ ขนส่ง (AOT, PSL), กลุ่มอิเล็กฯ (DELTA, KCE, HANA), กลุ่มอาหาร&เครื่องดื่ม (CPF, OSP, SAPPE) และ กลุ่มพลังงาน (PTT, GULF) ส่วน Sector ที่ปรับลง คือ กลุ่ม ICT (TRUE, ADVANC), กลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT, DOHOME) และ กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD, TIDLOR)
หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ
AOT (+7.69%) ราคาหุ้นปรับขึ้นเด่นนักลงทุนเข้าเก็งกำไรกระแสข่าวปรับขึ้นค่าธรรมเนียมสนามบิน (PSC) เนื่องจากปัจจุบันไทยเก็บค่า PSC ระหว่างประเทศที่ 730 บาท ซึ่งต่ำกว่าหากเทียบกับ หลายประเทศในภูมิภาค อาทิ สิงคโปร์ 1,250บาท, ฮ่องกง 1,200 บาท และเกาหลีใต้ 1,100 บาทต่อคน ทั้งนี้นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของเราประเมินทุกๆ 50 บาทของค่า PSC ที่ปรับขึ้นจะมีผลต่อราคาเป้าหมาย 3.25 บาท เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายเดิมที่ 31.25 บาท และสมมติฐานของการคิดค่า minimum guarantee จาก King power ที่ 14,225 ล้านบาทต่อปี (**หากปรับขึ้นค่า PSC 100 บาทจะได้ราคาเป้าหมายใหม่ 40.25, หากปรับ PSC ขึ้น 200 บาท จะได้ราคาเป้าหมายใหม่ 46.75 บาท)
KCE (+2.74%), HANA (+2.87%), DELTA (+1.42%) ยอดส่งออกสินค้ากลุ่มคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบยังโตเด่น โดย ก.พาณิชย์รายงานยอดส่งออกเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 57.7% เป็นบวกต่อรายได้และผลกำไรของกลุ่มชิ้นส่วน ผสานนักลงทุนดักเก็งกำไรก่อน DELTA จะประกาศงบ 2Q25 ในวันนี้ ผสานค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่าเป็นจิตวิทยาหนุนกับกลุ่มส่งออก
SCC (+2.30%) คาดการณ์กำไรสุทธิ 2Q25 โตเด่นทั้งกำไรปกติและกำไรสุทธิ เบื้องต้นนักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของเราคาดกำไรปกติที่ 4,100 ล้านบาท +273%q-q และ 11%y-y และคาดมีกำไรสุทธิ 15,614 ล้านบาท โตแรง 1321%q-q และ +321%y-y จากการบันทึกกำไรพิเศษในการขายหุ้นบางส่วนและประเมินมูลค่าใหม่ในบริษัท PT Chadra Asri Pacific Tbk (CAP) ของอินโดฯ โดย SCC จะประกาศงบ 2Q25 สัปดาห์หน้า (30 ก.ค. 2025)
SPALI (-2.60%) เช้าวันนี้นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของเราออกบทวิเคราะห์ลดน้ำหนักการลงทุนหุ้น SPALI จาก ซื้อ เป็น ขาย และลดราคาเป้าหมายเป็น 15 บาท (เดิม 16.60) สะท้อนคาดการณ์กำไร 2Q25F ที่อ่อนแอที่ 1.1 พันล้านบาทลดลง 31%y-y เป็นผลจากการแข่งขันที่สูงขึ้น กดดันให้มาร์จิ้น (Margin) ลดลงแตะระดับ 32.7% จาก 38.5% ใน 1Q25 และ 36.1% ใน 2Q24
