บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
BCPG Pcl. (BCPG.BK/BCPG TB)*
เจ็บในช่วงสั้น แต่ระยะกลางจะดี
Event : ประมาณการ 2Q68F และแนวโน้มธุรกิจ
Impact
กำไรผันผวนคล้ายหุ้นวัฏจักรมากขึ้น เหมาะจะเก็งกำไรเป็นรอบมากกว่าการถือลงทุนยาว
เรามองว่าภาพรวมกำไรของ BCPG มีลักษณะผันผวนและอิงกับสินค้าโภคภัณฑ์มากขึ้น จากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ ขนาด 857MW (42% ของ capacity รวม) โดยที่อัตราการทำกำไรจะขึ้นกับราคา Henry Hub gas ที่ผันผวน อุปสงค์การใช้ไฟฟ้า และการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ – นำโดยการกำหนดเพดานราคาและการเปลี่ยนแปลงนโยบาย แม้ PJM จะคาดว่าโครงสร้างอุปทานไฟฟ้าจะโตไม่ทันดีมานด์ไปอย่างน้อยจนถึงปี 2573F ก็ตาม แต่เกณฑ์ที่เข้มงวดขึ้นของเพดานรายได้จากค่าความพร้อมจ่าย (35% ของรายได้) อาจลด upside ลง (Figure 3-5) การที่ valuation ไม่แพงนัก แต่กำไรที่ผันผวนขึ้น เราจึงแนะให้เก็งกำไร BCPG ตามวัฏจักรมากกว่าการลงทุนระยะยาว
รายได้จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น – จะเป็นบวกต่อ BCPG ใน 2H69
ผลจากการประมูลของรายได้จากค่าความพร้อมจ่าย (CP) ปี 2569/70 ในตลาด PJM สหรัฐฯ แสดงถึงการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอยู่ที่ US$329.17/MW-day (+22% YoY) จากเดิม US$269.9/MW-day โดยราคาเพดานใหม่ที่ FERC อนุมัติสะท้อนถึงอุปสงค์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากศูนย์ข้อมูล AI ที่ขยายตัว ขณะที่ราคา CP ที่พุ่งขึ้นนี้จะเป็นบวกต่อ BCPG ซึ่งเราประเมินเชิงอนุรักษ์นิยมว่าจะมีกำไรรายปีเพิ่มขึ้นราว 250-300 ล้านบาท ซึ่งหมายถึงจะมี upside ราว 6-7% ในปี 2569F (130-150 ล้านบาท) (เริ่มตั้งแต่ 2H69) รวมถึงราคาเป้าหมายที่จะเพิ่มขึ้นอีกราว 0.2-0.3 บาท/หุ้น
ประมาณการ 2Q68F – ข่าวร้ายยังคงเพิ่มต่อเนื่อง แต่เป็นรายการพิเศษครั้งเดียว
วันที่ 6 ส.ค. BCPG น่าจะแจ้งขาดทุนสุทธิน่าผิดหวังที่ 750 ล้านบาท (แย่ลงจากกำไรสุทธิ 1.2 พันล้านบาทใน 2Q67 และ 153 ล้านบาทใน 1Q68) จากรายการพิเศษต่าง ๆ และกำไรหลักที่ย่ำแย่ 80 ล้านบาท (-60% YoY และ -19% QoQ) ส่วนกำไรหลัก 1H68F น่าจะอยู่ที่ 278 ล้านบาท (-37% YoY) คิดเป็น 18% ของกำไรหลักปี 2568F ของเรา ทั้งนี้ รายการพิเศษต่าง ๆคาดเกิดจาก: i) รายการตัดจำหน่ายจากการย้ายกังหัน 3 ต้นของ Nabas2 (560 ล้านบาท); ii) การตัดจำหน่ายของการขายลูกหนี้ EDL (100 ล้านบาท); iii) ขาดทุนจาก Fx (150 ล้านบาท); และ iv) การด้อยค่าของโครงการโซลาร์บนหลังคา (20 ล้านบาท) กำไรหลักที่ลดลง QoQ จะเกิดจากโครงการในสหรัฐฯ ที่อ่อนแอลง (การปิดซ่อมและเป็นช่วง low season) แม้โครงการพลังน้ำจะแข็งแกร่งก็ตาม ส่วนกำไรที่ลดลง YoY อาจมาจากโครงการในสหรัฐฯ ที่อ่อนแอลง (ค่าบำรุงรักษาสูงขึ้น) การไม่มีโครงการในญี่ปุ่นแล้วและผลกระทบเต็มปีจากค่า Adder หมดอายุลง
Valuation & Action
เรายืนคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย DCF ที่ 8.00 บาท ขณะที่ reward/risk ดูน่าสนใจขึ้น ในขณะที่ราคาหุ้นของ BCPG มักจะเสนอจุดเข้าซื้อหลังราคาร่วงลงมามาก ในแง่บวก กำไรจากโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ ของ BCPG เพิ่งเป็นช่วงเริ่มต้นขาขึ้นและจะเดินหน้าต่อไปอย่างน้อยจนถึง 2H69 โดยรอผลการประมูลครั้งถัดไปในเดือนก.ค. 69 ทั้งนี้ กำไรที่พุ่งขึ้นนี้อาจทำให้ BCPG นำเงินมาลดหนี้เพิ่มหรือเพิ่มเงินปันผลได้ ส่วนความเสี่ยงหลักของคำแนะนำเราคือ ความเสี่ยงจากการด้อยค่าโครงการของบริษัท
Risks
การปิดซ่อมบำรุงที่ไม่ได้วางแผนไว้ ต้นทุนที่เกินงบและความผันผวนของ Fx กับอัตราดอกเบี้ย