KS Daily View 30.07.2025 >>> มองหากภาษีต่ำกว่า 20% ตลาดอาจมีการปรับ PER multiple ขึ้นที่ระดับ 14.5 เท่าหรือ 1,275 จุด กรอบ SET วันนี้ 1,220-1,250 จุด แนะนำ GFPT TASCO
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง ดัชนี S&P500 ลดลง 0.30%, Nasdaq Composite ลดลง 0.38%, และ Dow Jones ลดลง 0.46% หลังหุ้นรายตัวใน Dow Jones รายงานผลประกอบการอย่าง UnitedHealth (UNH.N), opens new tab, Boeing (BA.N), opens new tab และ Merck (MRK.N) ต่างปิดตลาดปรับตัวลดลงหลังจากผลประกอบการรายไตรมาส ขณะที่นักลงทุนรอแถลงการณ์นโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ
ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,233.68 จุด เพิ่มขึ้น 16.53 จุด (+1.36%) จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของกลุ่มพลังงาน, กลุ่มธนาคาร, และกลุ่มค้าปลีก หลังตลาดเริ่มผ่อนคลายกังวลของความขัดแย้งบริเวณชายแดน และความคาดหวังอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐในอัตราที่ลดลง อย่างไรก็ตามในวันนี้ เราคาดว่า SET Index ของไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,220-1,250 จุด ในขณะเดียวกันเราประเมิณว่า upside ของตลาดเริ่มจำกัด โดยประเมินว่าหากอัตราภาษีออกมาที่ระดับต่ำกว่า 20% ตลาดอาจมีการปรับ PER multiple ขึ้นที่ระดับ 14.5 เท่าหรือ -0.5 SD จากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 15 ปีของ PER band ขณะที่เราคาด 2025E EPS ที่ 88 บาท ในส่วนของการปรับประมาณการขึ้นคาดว่าจำกัดเช่นกัน ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ GFPT จากแนวโน้มของผลประกอบการ 2Q25 ที่จะออกมาแข็งแกร่งประกอบกับเก็งต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลง และ TASCO เก็งงบที่ฟื้นตัวของการซ่อมแซม ประกอบกับการเบิกจ่ายงบลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
- สหรัฐและจีนเสร็จสิ้นการเจรจาการค้ารอบที่ 3 ณ กรุงสตอกโฮล์ม โดยคณะผู้แทนสหรัฐจะกลับกรุงวอชิงตันเพื่อหารือกับประธานาธิบดีทรัมป์เกี่ยวกับการอนุมัติขยายเวลาผ่อนผันดังกล่าวต่อไป ขณะที่ทรัมป์ระบุว่าจะตัดสินใจหลังได้รับรายงานจากทีมเจรจาในวันพุธนี้ ในขณะเดียวกันประธานาธิบดีทรัมป์ได้ปฏิเสธข้อเสนอจากหลายประเทศที่เปิดตลาดให้บางส่วน เช่น 30% หรือ 50% โดยยืนกรานให้เปิดตลาดอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าของสหรัฐสามารถเข้าถึงตลาดต่างประเทศได้อย่างเสรีและเท่าเทียม มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกกับ GFPT, PTTGC, IVL
2) IMF ปรับประมาณการ GDP เศรษฐกิจโลกปีนี้ขึ้น สาเหตุหลักจากสหรัฐจากการผ่อนปรนภาษีนำเข้า ของสหรัฐลงเมื่อเทียบกับเดือนเม.ย. โดย GDP สหรัฐถูกปรับขึ้น 0.1% (1.8% เป็น 1.9%) และ จีนถูกปรับขึ้นมากถึง 0.8% (4.0% เป็น 4.8%) ในขณะที่ประเทศไทยถูกปรับขึ้น 0.2% ( 1.8% เป็น 2.0%)เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการปรับประมาณการดังกล่าวและมองว่าภาพดังกล่าวเกิดขึ้นจากสภาวะ Front – loading ของส่งออก , การชะลอตัวออกภาษีนำเข้าสหรัฐ, การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลัง และการอ่อนค่าของ USD ในขณะที่ประมาณการเงินเฟ้อโลกในปี 25/26 ไม่ได้แตกต่างจากรอบก่อน มองเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงานและปิโตรอย่าง PTTGC, BANPU
3) ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ส่งสัญญาณเตรียมปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายภายใน 3 เดือนข้างหน้า แม้จะยังคงดอกเบี้ยไว้ที่ 2.50% ในการประชุมเมื่อ 10 ก.ค. โดยรายงานการประชุมล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ก.ค. ระบุว่า กรรมการส่วนใหญ่เห็นพ้องถึงความจำเป็นในการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม เพื่อลดผลกระทบจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากมาตรการภาษีของสหรัฐ มองเป็น Proxy ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ BoT ใน 2H25 ที่อาจกดดัน NIM ของกลุ่มธนาคาร
4) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า จากเหตุความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลให้นักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทางเข้าไทยแล้วกว่า 8,000 ราย แม้ว่าพื้นที่ท่องเที่ยวหลักของไทยไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง ในขณะเดียวกันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในบาหลีเริ่มเตรียมรับนักท่องเที่ยวที่อาจเปลี่ยนจุดหมายปลายทางจากไทย เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งแม้จะมีการหยุดยิงที่ยังไม่มั่นคง โดยผู้ประกอบการโรงแรมในบาหลีระบุว่าจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นประมาณ 10-15% ขณะที่หลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย สหรัฐฯ และอังกฤษ
5) ในขณะเดียวกันกรมสรรพากรกำลังรอความชัดเจนจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเกี่ยวกับการกำหนดเป้าหมายแหล่งท่องเที่ยวว่าจะเน้นเมืองหลักหรือเมืองรอง เพื่อจัดทำมาตรการภาษีส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงไตรมาส 3 ซึ่งตรงกับช่วงโลว์ซีซัน โดยคาดว่ารูปแบบมาตรการจะคล้ายกับปีที่ผ่านมา ที่ให้สิทธิบุคคลธรรมดานำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวภายในประเทศมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาท เพื่อกระตุ้นการเดินทางและช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวในช่วงฤดูซบเซา มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกเล็กน้อยกับกลุ่มท่องเที่ยว
Daily pick
GFPT: ราคาพื้นฐาน 13.40 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ GFPT จากตัวเลขของการส่งออกของไก่สดและแช่แข็งในเดือน มิ.ย. เติบโตขึ้น 15.8% YoY หนุนโดยปริมาณการส่งออกที่เติบโตขึ้น ในขณะเดียวกันแนวโน้มผลประกอบการ 2Q25 แข็งแกร่งคาดที่ 591 ลบ. เพิ่มขึ้น 1.4% YoY หนุนโดยอัตรากำไรขั้นต้นแต่ลดลง 7.4% QoQ จากกำไรส่วนแบ่งจากบริษัทร่วม (JV) ที่ลดลง แต่แนวโน้มครึ่งหลังปี 2025 คาดว่าราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นประมาณ 6% สำหรับตลาดยุโรป และต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจะเป็นปัจจัยหลักที่สนับสนุนความสามารถการทำกำไรที่แข็งแกร่งใน 3Q25 และราคากากถั่วเหลืองเฉลี่ยในช่วงต้นเดือนก.ค. 2025 อยู่ที่ 15.6 บาท/กก. ลดลง 6.1% จากราคาเฉลี่ยใน 2Q25
TASCO: ราคาพื้นฐาน 17.60 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ TASCO จากการคาดการณ์ผลประกอบการใน 2Q25 ที่จะรายงานออกมาประมาณ 421 ล้านบาทเติบโต 325% YoY จาก volume ขายที่เพิ่มขึ้นรวมทั้ง GPM ที่ขยายตัวเช่นกัน เราคาดการณ์ volume ขาย จะเติบโตที่ระดับ 24% YoY จากการเบิกจ่ายงบลงทุนที่เพิ่มมากขึ้นแม้จะมีฝนตกค่อนข้างเยอะในช่วง 2Q25 นี้ มองไปครึ่งหลังของปีนี้ เรามองว่าจะสามารถทำยอดขายได้ที่ระดับ 290k-310k ตันต่อไตรมาส จากงบประมาณการสร้างและซ่อมแซมถนนมากขึ้นช่วยให้ demand ของยางมะตอยดีขึ้นเช่นกัน
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันพุธ ติดตามการรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDP ใน 2Q25 ของโซนยุโรปครั้งแรกตลาดคาดการณ์ที่ +1.2% YoY ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 1.5% YoY ต่อด้วยการรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDP ใน 2Q25 ของสหรัฐครั้งแรกตลาดคาดการณ์ที่ +2.4% QoQ เร่งตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ -0.5% QoQ ปิดท้ายด้วยผลการประชุม FOMC โดยตลาดคาดว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยจากครั้งก่อนหน้า
- วันพฤหัสบดี ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของจีน (China NBS Manufacturing PMI) เดือน ก.ค. ตลาดคาดที่ 49.7 จุดทรงตัวจากครั้งก่อนหน้าต่อด้วยผลการประชุมของ BoJ โดยตลาดคาดว่า BoJ จะคงอัตราดอกเบี้ยจากครั้งก่อนหน้า และปิดท้ายด้วยรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล (US Core PCE Price Index) ตลาดคาดที่ 2.7% YoY ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า
- วันศุกร์ ติดตาม รายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหภาพยุโรปครั้งแรก (EU CPI) เดือน ก.ค. โดยตลาดคาดการณ์ที่ +1.9% YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ +2.0% YoY ขณะที่สหรัฐมีการายงานตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (US ISM Manufacturing PMI) เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 49.5 จุดปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 49.0 จุด และตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่รายงาน การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.09 แสนตำแหน่งชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.47 แสนตำแหน่ง ต่อด้วยตัวเลขอัตราการว่างงาน (Unemployment rate) เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 4.2% เร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.1%