บล.ฟินันเซีย ไซรัส:
TIDLOR HOLDINGS (TIDLOR TB)
คาดกำไรสุทธิ 2Q25 อยู่ที่ 1.28 พัน ลบ.
- เราคาดว่า TIDLOR จะรายงานกำไรสุทธิ 2Q25 อยู่ในเกณฑ์ดีที่ 1.28 พัน ลบ. (+17% y-y, +5% q-q)
- กำไรที่คาดว่าจะดีขึ้นทั้ง y-y และ q-q ส่วนมากเกิดจากการเติบโตของสินเชื่อที่สูงขึ้น ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง และคุณภาพสินทรัพย์ที่อยู่ในเกณฑ์ดี
- คงคำแนะนำ “ซื้อ” TIDLOR ที่ราคาเป้าหมาย 19.00 บาท
การเติบโตของรายได้ที่ดีทั้งจากการปล่อยสินเชื่อและค่าธรรมเนียมประกันภัย
เราคาดว่า TIDLOR จะรายงานกำไรสุทธิ 2Q25 อยู่ในเกณฑ์ดีที่ 1.28 พัน ลบ. (+17% y-y, +5% q-q) กำไรที่คาดว่าจะดีขึ้นทั้ง y-y และ q-q ส่วนมากเกิดจากการเติบโตของสินเชื่อที่สูงขึ้น ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง และคุณภาพสินทรัพย์ที่อยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งนี้รายได้รวมจากการปล่อยสินเชื่อและค่านายหน้าในธุรกิจประกันภัยน่าจะยังอยู่ในเกณฑ์ดีด้วยตัวเลขการเติบโตที่ 5% y-y ในขณะเดียวกันเราคาดสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้ (Cost-to-income ratio) อยู่ที่ 54% ณ สิ้นไตรมาส 2Q25 โดย TIDLOR มีเครือข่ายสาขาอยู่ที่ 1,832 สาขา (+31 q-q, +54 YTD)
คาดสินเชื่อโตในระดับปานกลางพร้อม NIM ที่สูงขึ้น q-q
เราคาดว่าสินเชื่อรวมจะเพิ่มขึ้น 4% y-y และ 2% q-q เป็น 106.7 พัน ลบ. ใน 2Q25 โดยเราคาดว่าผลิตภัณฑ์หลักที่ทำให้สินเชื่อเติบโตน่าจะเป็นรถบรรทุกและรถจักรยานยนต์ ทั้งนี้เราคาดส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) ที่ 15.68% (+24bp q-q) จากต้นทุนในการกู้ยืมที่ทรงตัวที่ 3.59% และผลตอบแทนสินเชื่อที่สูงขึ้น 22bp จากจำนวนวันที่เพิ่มขึ้นใน 2Q เมื่อเทียบกับ 1Q สำหรับธุรกิจนายหน้าขายประกันเราคาดว่ารายได้จะสูงขึ้น 11% y-y
คุณภาพสินทรัพย์ที่ทรงตัวพร้อมสัดส่วนหนี้ด้อยคุณภาพที่ 1.77% และต้นทุนความเสี่ยง
ในการปล่อยสินเชื่อที่ 2.84% ในภาพรวมเราเห็นว่าคุณภาพสินทรัพย์ยังอยู่ในระดับที่จัดการได้ โดยคาดสัดส่วนหนี้ด้อยคุณภาพอยู่ที่ 1.77% ใน 2Q25 ค่อนข้างทรงตัว q-q เมื่อเทียบกับ 1.78% ใน 1Q25 และใกล้เคียงกับเป้าหมายของบริษัทฯ ที่ต่ำกว่า 2% ทั้งนี้เพื่อบริหารสัดส่วนหนี้ด้อยคุณภาพเราคาดต้นทุนความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อ (Credit cost) อยู่ที่ 2.84% ผ่านการตัดจำหน่ายหนี้ด้อยคุณภาพมูลค่าประมาณ 700 ลบ. โดยเฉพาะในกลุ่มรถบรรทุก ในด้านบวกประมาณการ Credit cost ที่ 2.84% ยังต่ำกว่าจุดสูงสุดที่ 3.91% ใน 3Q24 ซึ่งหมายถึงสภาพคุณภาพสินทรัพย์ที่เอื้ออำนวยในความเห็นของเรา เราคาดสัดส่วนสำรองต่อหนี้ด้อยคุณภาพที่ 256% สูงที่สุดในกลุ่มผู้ให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถในประเทศไทยที่เราทำการศึกษา
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 19.00 บาท
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” TIDLOR ที่ราคาเป้าหมายปี 2025 ที่ 19.00 บาท (GGM) เทียบเท่า 1.65x 2025E P/BV (COE 10.2%, ROE 14.2%) เรามีมุมมองเป็นบวกเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างเป็น Holding company ของ TIDLOR เนื่องจากกำไรต่อหุ้นและผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้นจะไม่ได้รับผลกระทบจากจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นอีกต่อไป เราคาดว่า TIDLOR จะรายงานกำไรสุทธิปี 2025-27 โต 11% CAGR จากรายได้ที่อยู่ในเกณฑ์ดีจากการปล่อยสินเชื่อและธุรกิจนายหน้าประกันภัย