KS Daily View 1 ส.ค. 2025>>> คาด SET Index ของไทยแกว่งตัว sideway up ในกรอบ 1,240-1,275 จุด หลังสหรัฐประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าของไทยที่ 19% ปรับตัวลดลงจากครั้งก่อนหน้าที่ 36% อยู่ในระดับใกล้เคียงกับเพื่อนบ้าน แนะนำ AMATA และ KLINIQ

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง ดัชนี S&P500 ลดลง 0.37%, Nasdaq Composite ลดลง 0.03%, และ Dow Jones ลดลง 0.74% หลังจากการประกาศผลประกอบการของบริษัทและข้อมูลเศรษฐกิจรอบล่าสุด ขณะที่นักลงทุนกำลังรอผลประกอบการของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon และ Apple ซึ่งจะประกาศหลังตลาดปิดทำการ

ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,242.35 จุด ลดลง 1.79 จุด (-0.14%) จากการปรับตัวลดลงของกลุ่มขนส่ง, กลุ่มค้าปลีก, และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง หลังตลาดรอผลการเจรจาอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐของไทย ในวันนี้ เราคาดว่า SET Index ของไทยแกว่งตัว sideway up ในกรอบ 1,240-1,275 จุด หลังสหรัฐประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าของไทยที่ 19% ปรับตัวลดลงจากครั้งก่อนหน้าที่ 36% อยู่ในระดับใกล้เคียงกับเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย มาเลเซียและเวียดนาม โดยมีลักษณะการขึ้นภาษีแบบภูมิภาค มองว่า SET index มีแนวโน้มที่จะไปทดสอบระดับ 1,275 จุดหรือ -0.50 SD ในขณะเดียวกันคาดว่ามี Upside 2025 GDP จากประมาณการเดิมของเราที่ 1.4% จาก Upside ของการส่งออก (ปัจจุบันคาดการณ์ 1.5% เทียบกับธปท.คาดการณ์ 4%+/-)

ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ AMATA จากการคลาย overhang ของภาษีนำเข้าสหรัฐ และ KLINIQ เก็งลดลงกำแพงภาษีนำเข้าจากสหรัฐ อาจส่งผลให้ GPM มีการปรับตัวขึ้นจากราคายาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ปรับตัวลดลง

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. สหรัฐประกาศขึ้นภาษีนำเข้าของไทย กัมพูชา มาเลเซียในอัตราที่ 19% เทียบกับครั้งก่อนหน้าที่ 36%, 36%, และ 25% ตามลำดับโดยมีลักษณะการขึ้นภาษีแบบภูมิภาค  มองว่าอาจส่งผลให้ ตลาดคลายกังวลของความสามารถการแข่งขันทางด้านราคาของกลุ่มส่งออกของไทย (เทียบกับอินโดนีเซีย 19% และเวียดนาม 20%) มองเป็นบวกกับกลุ่มส่งออกอย่าง DELTA KCE HANA STGT ITC AAI รวมไปถึงกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมอย่าง AMATA
  • กกพ. เตรียมประกาศปรับลดค่าไฟฟ้าประจำงวดเดือนกันยายนถึงธันวาคม 2568 เหลือ 3.94 บาทต่อหน่วย จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ในช่วง 3.98–5.10 บาทต่อหน่วย โดยมีเป้าหมายเพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของประชาชน เทียบกับ assumption ของ KS ในงวดสุดท้ายที่ 3.70 ต่อหน่วย มองเป็นบวกเล็กน้อยกับ GPSC และ BGRIM จากค่าไฟฟ้าที่ออกมา
  • MAGURO Group เตรียมเปิดตัวแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นใหม่ “KIWAMIYA” ร้านแฮมเบิร์กและสเต็กเนื้อวากิวลิขสิทธิ์จากญี่ปุ่นซึ่งสาขาแรกจะเปิดที่เซ็นทรัล พาร์ค ในวันที่ 4 กันยายน 2025 จากความร่วมมือนี้เกิดจากวิสัยทัศน์ร่วมระหว่าง MAGURO และ KIWAMIYA ในการมอบประสบการณ์อาหารระดับพรีเมียมที่ผสานวัฒนธรรมไทย–ญี่ปุ่น
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศผ่าน Truth Social ว่าสหรัฐฯ จะขยายเวลาการเจรจาการค้ากับเม็กซิโกออกไปอีก 90 วัน หลังการพูดคุยกับประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามของเม็กซิโกเป็นไปอย่างราบรื่น โดยยังคงเงื่อนไขเดิม เช่น ภาษีเฟนทานิล 25%, รถยนต์ 25% และเหล็ก-อะลูมิเนียม-ทองแดง 50% พร้อมทั้งเม็กซิโกตกลงยกเลิกอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีทันที มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกเล็กน้อยกับ KCE
  • ในขณะเดียวกันประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีแคนาดา มาร์ก คาร์นีย์ พยายามติดต่อเขาก่อนถึงเส้นตายการเก็บภาษีในวันที่ 1 สิงหาคม แต่ยังไม่มีการพูดคุยกันจริงจัง โดยหากไม่มีข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ ภายในวันศุกร์นี้ แคนาดาอาจเผชิญกับภาษีนำเข้าสูงถึง 35% สำหรับสินค้าที่ไม่ครอบคลุมในข้อตกลง USMCA ขณะที่แคนาดายืนยันว่าการเจรจายังดำเนินอย่างเข้มข้นแม้ไม่น่าจะตกลงกันได้ทันเวลา

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

  • AMATA: ราคาพื้นฐาน 23.50 บาท

เรามอง ว่าตัวเลขภาษีที่ออกมาจะคลายความกังวลของตลาดเรื่องความสามารถการแข่งขันทางด้านราคาการส่งออกของไทยละประเทศเพื่อนบ้าน อาจหนุนการกลับ demand การซื้อที่ดินของลูกค้าอุตสาหกรรมหลังมีความมั่นใจที่มากขึ้น อีกทั้งหากนับจาก Liberation day ราคาหุ้น AMATA laggard กว่า WHA  26% ในส่วนของปัจจัยพื้นฐาน รายงานยอดขายที่ดินในเดือน เม.ย.-พ.ค. ที่ 470 ไร่ เพิ่มขึ้นจาก 284 ไร่ ใน 1Q25 อย่างมีนัย แสดงถึงแนวโน้มของกำไรที่จะปรับตัวขึ้น QoQ ใน 2Q25 และ AMATA มีการปรับเพิ่มราคาเสนอขายของนิคมฯ 3 แห่งในประเทศไทย (ชลบุรี 2, ระยอง 1 และ TCR) ขึ้น 25% YoY จากความต้องการที่สูงหนุนให้ GPM ปรับตัวดีขึ้น YoY ใน 2025

  • KLINIQ: ราคาพื้นฐาน 24.30 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ KLINIQ จากทิศทางของรายได้เงินสด 2Q25 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 855 ลบ. เพิ่มขึ้น +1% QoQ ด้วยรายได้จากการผ่าตัดดีขึ้น และ +19% YoY ด้วย SSSG เติบโตขึ้น 8.7% YoY หลังมีการใช้กลยุทธ์ขายตัดราคา (loss leader strategy) ของ LabX ซึ่งช่วยให้เกิดการสร้างยอดขายเสริมได้มากขึ้น KLINIQ เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดจากคู่แข่งได้ตามที่ฝ่ายบริหารคาดไว้  ในขณะเดียวกันมองว่า หากมี trade deal กับทางสหรัฐและลดลงกำแพงภาษีนำเข้าจากสหรัฐ อาจส่งผลให้ GPM มีการปรับตัวขึ้นจากราคายาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ปรับตัวลดลง

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันศุกร์  ติดตาม รายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหภาพยุโรปครั้งแรก (EU CPI) เดือน ก.ค. โดยตลาดคาดการณ์ที่ +1.9% YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ +2.0% YoY ขณะที่สหรัฐมีการายงานตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (US ISM Manufacturing PMI) เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 49.5 จุดปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 49.0 จุด และตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่รายงาน การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.09 แสนตำแหน่งชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.47 แสนตำแหน่ง ต่อด้วยตัวเลขอัตราการว่างงาน (Unemployment rate) เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่  4.2% เร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.1%
- Advertisement -