บล.พาย:

CREDIT: Thai Credit Bank PCL

กำไรโตชะลอตัวฉุด ROE ลดลง

เราคงคำแนะนำ “ถือ” และปรับลดมูลค่าพื้นฐานเหลือ 18.00 บาท (เดิม 20 บาท) สะก้อนความสามารถการทำกำไรที่ลดลงกว่าคาด คำนวนด้วยวิธี Gordon growth model (ROE 13%, Long term growth 2%) อิง 0.86x PBV’25E และ 6.4x PE’25E และคาดผลตอบแทนเงินปันผลที่ 3.4% ในปี 2025 โดยเราคาดว่าใน 2H25 ยังคงเป็นช่วงที่ท้ากาย เพราะฐานลูกค้าหลักเป็นกลุ่ม SME และบุคคลที่ค่อนข้างเปาะบาง ต่อภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน นอกจากนี้ CREDIT มีโครงการ Digital Transformation ทำให้ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานแนวโน้มเพิ่มขึ้น กดดันให้ Cost to income สูงขึ้นเป็นราว 43-44% เราคาดกำไรสุทธิในปี 2025 จะลดลง 3.4% YoY และ ROE แนวโน้มลดลงต่อเนื่อง และยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนในระยะสั้น ทั้งนี้ คาดว่ากำไรสุทธิใน 2H25 จะลดลง YoY จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงตาม NIM ที่อ่อนแอและค่าใช้จ่ายการดำเนินงานเพิ่มขึ้น

การประชุมนักวิเคราะห์

  • CREDIT ปรับเป้าหมายการเงินในปี 2025 ประกอบด้วย (1) สินเชื่อเติบโต 10-15% (เดิมเติบโต 2 หลัก) (2) NIM ลดลงที่ 7.5-8.0% (เดิม 8.5%-9.0%) (3) Cost to income ratio เป็น 42-43% (เดิมทรงตัว YoY ในปี 2024 (4) Credit cost ที่ 2.0-2.7% (เดิม 2.50%-3.00%) (5) NPL ratio <4.5% และ (6) ROE ที่ 15.5-20% (เดิม 17% – 22%)
  • ภายใต้ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ธนาคารเติบโตอย่างระมัดระวังและช่วยลูกค้าให้อยู่รอด กลยุทธ์เติบโตเน้น (1) กลุ่มสินเชื่อ Micro SME ที่ขนาดใหญ่ขึ้น และกลุ่มลูกค้า Underserved โดยจะเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่เป็นหลัก และ (2) Digital Transformation เพื่อสร้างนวัตกรรมด้านดิจิตอล และประสบการณ์ให้ลูกค้าเพื่อเพิ่มผลิตภาพ (Productivity)
  • ใน 2H25 มีแผนการใช้สิทธิขอรับเงินค่าประกันกับทางบรรษัทประกัน สินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เพิ่มอีก 1.4 พันล้านบาทใกล้เคียงกับใน 1H ทำให้ในปี 2025 ใช้สิทธิราว 2.6-2.8 พันลบ.
  • โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” มีสินเชื่อเข้าร่วมโครงการราว 5% ของ สินเชื่อรวม แบ่งเป็น (1) Micro SME 40% (2) Nano และ Micro loan 20% และ (3) สินเชื่อบ้านและบุคคลรวมราว 40% ในภาพรวมธนาคารมองว่าผลกระทบค่อนข้างจำกัด และเป็นบวกต่อธนาคาร ช่วยลดหนี้เสีย และลด Credit cost

NIM อ่อนแอกว่าคาดกดดันการฟื้นตัวของกำไรในปี 2025

  • เราคงการเติบโตสินเชื่อที่ 10% YoY แต่ปรับลดสมมติฐานของ NIM ลดลง 20/50 bps ในปี 2025-26 เนื่องจาก NIM ใน 2Q25 ที่อ่อนแอกว่าคาด และแนวโน้มลดลงต่อเนื่องใน 2H25 จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ดังนั้น เราปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิลดลง 4%/7% ในปี 2025-26 โดยคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2025 จะลดลง 3.4% ในปี 2025 และกลับมาเติมโต 3.8% ในปี 2026 โดยคาด ROF จะลดลงต่อเนื่อง ที่ 14.3%/13.3% ในปี 2025-26
  • ฐานกำไรที่เติบโตจำกัด และการต้องรักษาเงินกองทุนสูงเพื่อสนับสนุนการเติบโตสินเชื่อ และรองรับความไม่แน่นอน เราคาดอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 20% ใกล้เคียงในปี 2024 และคาดผลตอบแทนเงินปันผลที่ 3.4%/3.5% ในปี 2025-26
- Advertisement -