บล.กรุงศรีฯ:

KSS Strategist Comment: TH Trade Tariff Update ระดับภาษีที่ไทยได้ + ข้อเสนอที่ไทยแลกเปลี่ยนสหรัฐฯ มีชุดหุ้นที่คาดได้ประโยชน์เชิงบวก อาทิ กลุ่มเกษตรฯ+อาหาร CPF, BTG, TFG, TU กลุ่มนำเข้าก๊าซ PTT, PTTGC, GULF กลุ่มธนาคาร KTB, SCB กลุ่มนิคม WHA, AMATA คาดชุดหุ้นดังกล่าวนำตลาดต่อเนื่องระยะนี้

Key Ideas :

• เราคงมองบวกภาษีเท่าเทียมที่ไทยได้ 19% ดีกว่าเวียดนาม และประเทศเกิดใหม่ (Emerging Markets) บวก 2 ด้าน

o คาดตลาดทยอยปรับเพิ่ม GDP ปี 2025F สู่ 2.0-2.3% บวกหุ้นธนาคาร SCB, KTB

o ศักยภาพการแข่งขันเปรียบเทียบ บวกต่อหุ้นส่งออก TU, AAI, KCE, HANA และหุ้นนิคม WHA, AMATA

o เม็ดเงิน Fund Flows ที่มีโอกาสสลับจากตลาดหุ้น EM อื่น มาที่ SET เพิ่มขึ้น หนุนหุ้น Big Cap

•ข้อเสนอที่ไทยแลกเปลี่ยนยังอยู่ในกรอบที่บริหารจัดการผลกระทบเศรษฐกิจได้ เป็นประโยชน์หุ้นต่างๆ ดังนี้

o นำเข้าสินค้าที่ไทยไม่มีการผลิต อาทิ เชอร์รี่ หรือ สินค้าแปรรูปที่มีราคาสูงกว่าในประเทศมากๆ ลดผลกระทบดุลการค้า

o ขอระยะเวลาปรับตัว ก่อนนำเข้าสินค้าที่ไทยผลิตได้และเพียงพออยู่แล้ว

o นำเข้าสินค้าที่การผลิตในประเทศไม่เพียงพอ 

 ข้าวโพด ขณะที่เปิดนำเข้าสุกร < 1% ของการบริโภคในประเทศ บวกต่อต้นทุนหุ้นกลุ่มเกษตร และกระทบรายได้จำกัด อาทิ CPF, BTG, TFG

 ก๊าซ บวกต่อหุ้น PTT, PTTGC, GULF

o ปรับแก้อุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษี

Strategy: เราประเมินตลาดผ่านช่วง Sell on Facts จากผลการเจรจาแล้ว จากนี้คาดกลับมาให้น้ำหนักจุดเปลี่ยนภาษีการค้าต่อศักยภาพของประเทศดีขึ้น เชิงเปรียบเทียบ ผสาน SET อยู่ในโซน Value มี Current Equity Risk Premium 5.2% > AVG + 2.0 S.D. เป็นประเด็นหนุนตลาด 

ชุดหุ้นเคลือนไหวเด่นระยะสั้น เราให้น้ำหนัก

o ธนาคาร BBL SCB KTB

o ศักยภาพส่งออกเชิงเปรียบเทียบดีขึ้น TU, KCE, HANA, ITC, AAI

o ศักยภาพดึง FDI ระยะกลาง-ยาว WHA, AMATA

o ได้ประโยชน์นำเข้าสินค้า CPF, TFG, BTG, PTT, PTTGC, GULF

- Advertisement -