บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย):
Bangkok Chain Hospital (BCH TB)
ยังไม่ตื่นเต้น
คงคำแนะนำ “ถือ” และลด TP เหลือ 15 บาท ชอบ CHG มากกว่า
เราคงคำแนะนำ “ถือ” สำหรับ BCH โดยปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 15.00 บาท เนื่องจากเรามองว่าปัจจัยหนุนระยะสั้นยังมีจำกัด ในไตรมาส 2/68 รายได้เงินสดมีแนวโน้มทำได้เพียงทรงตัว YoY ขณะที่รายได้จากประกันสังคม (SSO) เพิ่มขึ้นจากฐานที่ต่ำในปีก่อน สำหรับไตรมาส 3/68 ก็ไม่น่าจะโดดเด่นกว่ากลุ่ม และอาจลดลง YoY หากรายได้จากโรคเรื้อรังถูกรับรู้ในไตรมาส 2 เรามองว่าราคาหุ้นได้สะท้อนการเติบโตที่แข็งแกร่งในปี 68 แล้ว โดยหุ้นซื้อขายที่ P/E ปี 68 ที่ 24 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม ขณะที่อัตราการเติบโตมีแนวโน้มชะลอลงเหลือเพียง 3–4% ในปี 69–70
ในกลุ่มโรงพยาบาลประกันสังคม เรายังชอบ CHG (ราคาเป้าหมาย 2.20 บาท) มากกว่า เนื่องจากรายได้เงินสดยังเติบโต มีโอกาสที่รายได้จากผู้ป่วยตัดกระเพาะจะกลับมาในครึ่งหลังของปี 68 และมีมูลค่าหุ้นที่น่าสนใจ (P/E ปี 68 ที่ 17 เท่า)
กำไรหลักไตรมาส 2/68 โตจากฐานต่ำ รายได้เงินสดทรงตัว
เราคาดว่า BCH จะรายงานกำไรหลักในไตรมาส 2/68 (ประกาศงบวันที่ 15 ส.ค.) ที่ 333 ล้านบาท (+17% YoY, +2% QoQ) โดยการเติบโต YoY มาจากรายได้ประกันสังคมที่สูงขึ้นจากฐานที่ต่ำในปีก่อน ซึ่งมีการปรับลด RW>2 จำนวน 81 ล้านบาท คาดว่ารายได้รวมจะเติบโต 4% YoY หนุนโดยรายได้ SSO ที่เพิ่มขึ้น 9% YoY จากฐานต่ำ ขณะที่จำนวนผู้ประกันตนยังอยู่ระดับใกล้เคียงเดิมที่ราว 1.03 ล้านคน (+1% YoY, ทรงตัว QoQ) ส่วนรายได้เงินสดยังคงทรงตัวจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอ แต่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ จากการรีแบรนด์บางโรงพยาบาล และเพิ่มบริการใหม่บางรายการ เช่น การศัลยกรรม เราคาดอัตรากำไร EBITDA จะปรับดีขึ้น YoY อยู่ที่ 23.7% (จาก 21.3% ใน 2Q67) เนื่องจากอัตรา RW>2 กลับสู่ปกติ แต่ลดลงเล็กน้อย QoQ จากค่าใช้จ่ายในการรีโนเวตและการขยายบริการ
กำไรพิเศษจะรับรู้ในไตรมาส 2 หรือ 3 แต่ไม่ใช่ปัจจัยเซอร์ไพรส์
BCH คาดว่าจะรับรู้รายได้ที่เกี่ยวข้องกับโรคเรื้อรัง 26 โรค (ภาระเสี่ยง) ประมาณ 77 ล้านบาท (60 ล้านบาทหลังหักภาษี) ใกล้เคียงกับปีที่แล้วที่รับรู้ในไตรมาส 3/67 อย่างไรก็ตาม เวลาในการรับรู้ยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นในไตรมาส 2 หรือ 3 ซึ่งเราไม่มองว่าเป็นปัจจัยเซอร์ไพรส์ หากรับรู้ในไตรมาส 2/68 กำไรหลักจะเพิ่มขึ้นเป็น 393 ล้านบาท (+39% YoY, +20% QoQ) แต่กำไรไตรมาส 3/68 อาจลดลง YoY จากฐานที่สูง หากรับรู้ในไตรมาส 3/68 กำไรอาจเติบโตเล็กน้อย YoY แต่ไม่น่าจะโดดเด่นเทียบกับกลุ่ม จากรายได้เงินสดที่ยังซบเซา และฐานรายได้ SSO ที่กลับมาเป็นปกติ
คงประมาณการกำไรหลักปี 68 ที่ 1.46 พันล้านบาท (+17% YoY)
แต่ปรับลดปี 69–70 ลง 2% และ 4% ตามลำดับ สะท้อนการเติบโตของรายได้เงินสดที่ลดลง (4% จากเดิม 7%) และจำนวนผู้ประกันตนที่ลดลงเล็กน้อย (-10,000 คน/ปี) จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอ สำหรับปัจจัยหนุน (upside) BCH เปิดเผยว่ากำลังเจรจาดีล M&A กับโรงพยาบาลขนาดเล็ก คาดว่าจะสรุปได้ในไตรมาส 4/68 แต่ด้วยความไม่แน่นอน เราจึงยังไม่รวมไว้ในประมาณการขณะนี้