บล.พาย:
TOURISM: คาดกำไรใน 2Q25 ขยายตัว YoY และ QoQ (NEUTRAL)
TOP PICK: ERW, MINT
คาดผลกำไรปกติรวมใน 2Q25 ของบริษัท 3 แห่งในกลุ่มการท่องเที่ยว (MINT, CENTEL และ ERW) คาดว่าอยู่ที่ 3.5 พันล้าน บาท (+2% YoY, +193% QoQ) โดยคาดรายได้รวมที่ 5.1 หมื่นล้านบาท (-1% YoY, +14% QoQ) รายได้เติบโต QoQ จากฤดูกาลท่องเที่ยวในยุโรป แต่รายได้ทรงตัว YoY เนื่องจากฐานสูงใน 2Q24 ทั้งนี้ เรามองว่าในปี 2025 ธุรกิจกลุ่มการท่องเที่ยวมีความท้าทาย และมีแนวโน้มอ่อนตัว YoY จาก 1) จำนวนนักท่องเที่ยวสะสมที่ลดลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน 2) กำลังซื้อในประเทศอ่อนแอ ทำให้ธุรกิจร้านอาหารในกลุ่มราคาระดับบนมีอุปสงค์ลดลง ขณะที่กลุ่มราคาระดับกลางมีการแข่งขันที่สูงขึ้น กดดัน EBITDA Margin ของกลุ่มฯ อ่อนแอ และ 3) ความกังวลต่อความขัดแย้งระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านที่รุนแรง อาจชะลอการกลับมาของนักท่องเที่ยวใน 2H25 ด้านการลงทุน เราให้น้ำหนัก “เท่ากับตลาด” เรามองว่าในระยะยาวกลุ่มการท่องเที่ยวไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวจากพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และ Valuation ไม่แพง ด้วย PF ของกลุ่มฯ ที่ปรับลดลงได้สะท้อนปัจจัยลบต่อกลุ่มการท่องเที่ยวไปค่อนข้างมากแล้ว เลือก FRW, MINT เป็นหุ้นเด่น
ผลการดำเนินงานกลุ่มท่องเที่ยวใน 2Q25 คาดเติบโตทั้ง YoY และ QoQ
เราประมาณการกำไรปกติกลุ่มฯ (MINT, CENTEL และ ERW) ใน 2Q25 อยู่ที่ 3.5 พันล้านบาท (+2% YoY, +193% QoQ) โดยแม้รายได้รวมจะทรงตัว YoY จากฐานสูง คาดว่าอยู่ที่ 5.1 หมื่นล้านบาท (-1% YoY, +14% QoQ) แต่เรามองว่าจะได้รับปัจจัยหนุนจากภาระต้นทุนทางการเงินกลุ่มฯ ที่ลดลง 18% YoY และอัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มฯ ทรงตัว YoY ที่ 44% (+2 ppts QoQ) ทั้งนี้ MINT มีกำไรปกติแข็งแกร่งถึง 3.3 พันล้านบาท (93.5% ของกำไรปกติรวมของกลุ่มฯ) ขณะที่คาดกำไรปกติของ ERW CENTEL ค่อนข้างอ่อนแอ ส่วนหนึ่งจากปัจจัยนอกฤดูกาลท่องเที่ยวไทย และความกังวลต่อเหตุการแผ่นดินไหวที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวสะสมลดลง -6% YoY ในปี 2025 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม (1 ม.ค. – 27 ก.ค.) หดตัว 6% YoY อยู่ที่ 19 ล้านคน เพราะนักท่องเที่ยวชาวจีนสะสมที่ลดลงอย่างมากอยู่ที่เพียง 2.6 ล้านคน (-35% YoY) คาดว่าเป็นมาจากความกังวลต่อความปลอดภัยในการท่องเที่ยว ทั้งนี้ อ้างอิงจากผลสำรวจชาวจีนใน Dragon Trial Internation (เม.ย. 2025) พบว่าอัตราความรู้สึกไม่ปลอดภัยต่อประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้น 13 ppts YoY หลังเหตุการณ์ลักพาตัวนักแสดงชาวจีน การปราบปรามธุรกิจสีเทา รวมถึงเหตุการแผ่นดินไหวใน 1H25
เผชิญความท้าทายต่อเนื่องใน 2H25
เรามองว่านักท่องเที่ยวไทยใน 2H25 มีโอกาสฟื้นตัวจำกัด จากนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ฟื้นตัวชะลอตัว กอปรกับเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาที่มีความรุนแรง อาจกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอื่นชะลอการเดินทางมาไทยได้ เราคาดนักท่องเกี่ยวต่างชาติในปี 2025 จะอยู่ที่เพียง 35 ล้านคน ต่ำกว่าเป้าเดิมกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่ 40 ล้านคน
น้ำหนักการลงทุน “เท่ากับตลาด” เลือก ERW และ MINT เป็นหุ้นเด่น
- เราให้น้ำหนักการลงทุน “เท่ากับตลาด” แม้คาดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะลดลง YoY แต่มองพื้นฐานกลุ่มการท่องเที่ยวของไทยยังแข็งแกร่ง ทำให้มีโอกาสฟื้นตัวได้ในระยะยาว และ Valuation ไม่แพง โดยค่าเฉลี่ยกลุ่มฯ (MINT, CENTEL, ERW, AWC, SHR, VRANDA และ DUSIT) ในปี 2025 ซื้อขาย EV/EBITDA 11x และ PE 20x (-1 SD ของค่าเฉลี่ยกลุ่มฯ ใน 10 ปี)
- แต่ด้วยเศรษฐกิจที่แนวโน้มชะลอตัวในระยะสั้นถึงกลาง เราคาดยังส่งผลกระทบเชิงลบต่อกำลังซื้อและการบริโภคในประเทศ ดังนั้น เราชอบ MINT เป็นหุ้นเด่น เนื่องจาก 1) มีสัดส่วนรายได้หลักจากโรงแรมในยุโรป เป็นการกระจายความเสี่ยงจากจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมและกำลังซื้อที่อ่อนตัวในไทย 2) คาดภาระจ่ายดอกเบี้ยลดลงใน 2H25 จากสัดส่วนหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ย (IBD/E) ลดลงที่ 0.8x และ 3) Valuation ไม่แพง EV/EBITDA’25 ที่ 5x และ PE’25 ที่ 15x (-1 SD เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 10 ปี ของบริษัทเอง) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มฯ ในขณะที่ ERW มีความน่าสนใจจากคาดกำไรกลับมาขยายตัวแกร่ง 20% ในปี 2026 หนุนจาก 1) คาดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นเป็น 36 ล้านคน 2) การเปิดสาขา Hop Inn คาดจะผลักดันรายได้เติบโตมากขึ้น