เจรจาการค้าไทยกับสหรัฐฯ ตลาดรับรู้ไปพอสมควรแล้ว
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดลบ 542 จุด (-1.2%) ตลาดกลับมากังวลกับภาวะเศรษฐกิจจากการจ้างงานที่แย่กว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 2.8% กังวลอุปทานอาจเร่งตัวจาก Opec+
Market Outlook
วันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐฯ ประกาศการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ 7.3 หมื่นราย แย่กว่า ที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 1.06 แสนราย พร้อมกับอัตราการว่างงานที่ 4.2% แต่เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ด้วยการจ้างงานที่ย่ำแย่กว่านักวิเคราะห์ประเมินไว้ กดด้นให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับลงอย่างมีนัยยะพร้อมกับ Dollar Index พลิกมาอ่อนค่ารุนแรง สอดคล้องกับเงินบาทกลับมาแข็งค่า แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับปรับฐานแรงเพราะ กังวลกับภาวะเศรษฐกิจมากกว่าจะมองบวกเพราะคาดหวังเรื่องดอกเบี้ย โดย CME FED Watch ให้น้ำหนักราว 80% ที่ FED จะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนแต่อย่างไรก็ตามตัวเลขข้างต้นก็อาจผันผวนได้ไปตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจจากนี้ แต่ทั้งนี้ระยะสั้นด้วย Dollar Index กลับมาอ่อนค่าอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนสกุลฝั่งเอเชียให้แข็งค่าและมีความหวังที่กระแสเงินจะไหลกลับมาระยะสั้น แต่ยังเชื่อว่านักลงทุนต่างชาติอาจยังไม่เข้าซื้อสุทธิหุ้นไทยด้วย Valuation เริ่มแพงผสานกับ Price In ปัจจัยบวกด้านการเจรจาไปแล้ว และแนวโน้มเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังก็เริ่มดูไม่สดใส เพราะการส่งออกจะเริ่มย่ำแย่จากที่เร่งไปก่อนหน้า สอดคล้องกับในวันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX เริ่มปรับฐาน -1.9% และนักลงทุนต่างชาติที่ซื้อสุทธิมาอย่างต่อเนื่องก็เริ่มเห็นการขายสุทธิออกมามากถึง 1.89 พันล้านบาท นับเป็นการขายสุทธิที่มากสุดในรอบ 10 วันทำการ ปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่คำสั่งซื้อโรงงานของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus -4.9%MoM และปัจจัยในประเทศได้แก่การกลับมาซื้อขายของหุ้น THAI ครั้งแรกในรอบ 4 ปี ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์พายให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 9.6 บาท
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1200 – 1230 ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนหากตลาดหุ้นฟื้นตัวยังมองเป็นจังหวะลดพอร์ตการลงทุนด้วย Valuation ที่เริ่มแพงผสานกับ Price In ปัจจัยบวกการเจรจาการค้าไปพอสมควรแล้ว แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนระยะสั้นอาจเลือก Trading ในหุ้น Finance ปัจจัยหนุนระยะสั้นจากแรงกดดันดอกเบี้ย (MTC SAWAD) กลุ่มส่งออก (ITC TU) ปัจจัยหนุนเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับไทย พร้อมแนะสะสมหุ้นปันผล สูงที่น่าสนใจ (SCB)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 13.10)
ผลประกอบการงวด 2Q25 หากไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนรายได้จะกลับมาเติบโตได้จากปีก่อน หลังจากลูกค้าหลักกลับมาสั่งตามปกติ ส่วนทำไรสุทธิเราคาดที่ 1,142 ล้านบาท ลดลง 6%YoY จากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้เราอาจจะมีการปรับกำไร ทั้งปีหลังจากค่าใช้จ่ายภาษีส่วนเพิ่มจาก GMT มีแนวโน้มออกมาต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้เหลือ 100-150 ล้านบาท จากเติมที่กาดไว้ที่ระดับ 300 ล้านบาท
THAI (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 9.6 บาท)
แนวโน้มของการบินไทยจะเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้หลังจากผ่านการปรับโครงสร้างธุรกิจที่ทำให้ช่วยลดต้นทุนลงได้อย่างมาก รวมถึงการปรับรูปแบบการให้บริการเส้นทางที่ให้ระบบเครือข่าย (Netwok) เทกขึ้น ทำให้เพิ่มจำแวนผู้โดยสารและค่าโดยสารได้อย่างมาก อีกทั้งการมบินไทยยังมีแผนที่จะจัดหาฝูงบินเพิ่มเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต โดยเราประเมินรายได้ปี 25-26 อยู่ที่ 89,936 ล้านบาท (+4%YoY) และ 201,502 ล้านบาท (+6%YoY) ส่วนกำไรปกติคาดเติบโตที่ระดับ 35%YoY และ 2%YoY มาอยู่ที่ 28.244 ล้านบาทและ 28,811 ล้านบาท