บล.ทิสโก้:
ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG TB)
คาดกำไร Q2 ทำสถิติใหม่สูงสุด จากธุรกิจสุกรที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนอาหารสัตว์ลดลง
แนวโน้มผลประกอบการเติบโต จากราคาหมูที่ยืนราคาสูงและต้นทุนที่ลดลง
เราคาดกำไรสุทธิ 2Q25F เติบโตต่อเนื่องทำสถิติใหม่สูงสุด จากปริมาณและราคาสุกรที่ปรับเพิ่มขึ้น ทั้งในประเทศและเวียดนาม จาก supply ที่ลดลงจากโรค ASF ระบาด และปริมาณ supply หมูไทยลดลงจากโรคท้องถิ่นระบาด ในขณะที่ปริมาณไก่ลดลงเล็กน้อยและราคาทรงตัว QoQ และอัตรามาร์จิ้นดีขึ้นต่อเนื่อง จากต้นทุนอาหารสัตว์ปัจจุบัน ข้าวโพดอาหารสัตว์และกากถั่วเหลืองลดลง เราปรับประมาณการเพิ่มขึ้นสะท้อนแนวโน้มผลประกอบการที่ดีกว่าคาด เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายใหม่ 6.50 บาท
คาดกำไรสุทธิ 2Q25F เติบโตแรงทั้ง YoY และ QoQ
เราคาด TFG จะมีกำไรสุทธิ 2Q25F ที่ 2,556 ล้านบาท (+199% YoY, +26% QoQ) โดยรายได้รวมคาดเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ จากธุรกิจหมูที่กระจายสู่สาขา shops ของตนเองมากขึ้น โดย
- ธุรกิจไก่ในประเทศมีปริมาณลดลงเล็กน้อย แต่ราคาตลาดทรงตัวอยู่ที่ 40.5 บาท/กก. ทรงตัว แต่การส่งออกดีขึ้นเล็กน้อย +5% QoQ หลักๆ จากกลุ่มยุโรปที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ญี่ปุ่นลดลงเล็กน้อย
- ธุรกิจสุกรปริมาณการขายคาดเพิ่มขึ้นราว 12% QoQ เนื่องจากเน้นขายผ่าน shops ของตนเองมาก ราคาตลาดสุกรอยู่ที่ 86 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 9% QoQ
- ธุรกิจอาหารสัตว์คาดเพิ่มขึ้น YoY ตามการเลี้ยงที่เพิ่มขึ้น แต่ทรงตัว QoQ
- รายได้จากธุรกิจอื่นๆ เพิ่มขึ้น จากการเปิดสาขา TFG ที่เพิ่มขึ้น 2Q25F อยู่ที่ 460 สาขา จากปี 2024 อยู่ที่ 401 สาขา
คาดอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากธุรกิจสุกรที่ราคาเพิ่มขึ้น และต้นทุนอาหารสัตว์เลี้ยงที่ลดลง ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารทรงตัว
ปรับประมาณการเพิ่มขึ้น จากราคาสุกรที่มีราคาเพิ่มขึ้นและต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง
เราคาดกำไร 1H25F คิดเป็น 57% ของทั้งปี และคาดครึ่งปีหลังจะอ่อนตัวจากครึ่งปีแรกจากช่วง low season ฤดูฝน และช่วงเทศกาลกินเจในไตรมาส 4 คาดราคาหมูและไก่จะอ่อนตัว เราปรับประมาณการปี 2025-26F เพิ่มขึ้นจากคาดเดิม 103% และ 62% คาดกำไรปีนี้เติบโต 155% แต่ปีถัดไปลดลง 8% จาก 1) ธุรกิจสุกรดีขึ้น เราคาดรายได้ปี 2025F เพิ่มขึ้น 7% แต่ปีถัดไปคาดลดลง -7% จากคาด supply จะเริ่มกลับ หลังจากสถานการณ์โรคระบาด ASF เริ่มดีขึ้น 2) ธุรกิจไก่ คาดเพิ่มขึ้น จากการเน้นจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีกของบริษัทเพิ่มขึ้น คาดการส่งออกปีนี้ 7 หมื่นตัน ส่งออกไปญี่ปุ่น จีน และกลุ่มยุโรปเป็นหลัก 3) คาดร้านค้าปลีกคาดเพิ่มขึ้นเป็น 550 สาขา และปีถัดไปเพิ่มขึ้น 50 สาขา (สิ้นปี 2024 ปิดที่จำนวน 401 สาขา) คาดอัตราทำกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากแนวโน้มต้นทุนอาหารสัตว์ลดลงตามผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ทั้งกากถั่วเหลืองและข้าวโพดอาหารสัตว์ และปีถัดไปคาดลดลงจากราคาสุกรที่ปรับลดลง และธุรกิจ shop ที่มีมาร์จิ้นต่ำกว่าเพิ่มขึ้น
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายใหม่ปี 2026F อยู่ที่ 6.50 บาท
คาดแนวโน้มผลประกอบการปี 2025F เพิ่มขึ้น และธุรกิจสุกรและร้านค้าปลีกเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นหลัก แต่ปี 2026F คาดลดลงจาก supply เริ่มกลับ ราคาเป้าหมายใหม่ปี 2026F อยู่ที่ 6.50 บาท อ้างอิง historical PER -0.5STD เฉลี่ย 6X โดยราคาปัจจุบันมีระดับ PER26F ที่ 4.7X, Dividend Yield 26F อยู่ระดับสูงคาดที่ 10.2%
ความเสี่ยง: โรคระบาด, ต้นทุนอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้น