บล.พาย:
KBANK: Kasikornbank PCL
จ่ายเงินปันผลเพิ่มไม่พอหนุน ROE เป็น 2 หลัก
คงแนะนำ ‘ถือ” ปรับเพิ่มมูลค่าพื้นฐานเป็น 174 บาท (เดิม 170 บาท) คำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 8.4%, TG 2%) จากการปรับเพิ่ม ROE โดยอิงจาก 0.7x PBV’25E โดยคาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ 7.4% ในปี 2025 เรามีมุมมองเป็นกลางหลังการประชุมนักวิเคราะห์ แต่มีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นต่อการบริหารเงินกองทุนอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นที่มีเสถียรภาพ ด้วยการเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผล และโอกาสในการซื้อหุ้นคืนในอนาคต อย่างไรก็ดี ภายใต้ความท้าทายทางเศรษฐกิจ เราคาดุว่ากำไรสุทธิเติบโตจำกัดที่ 2.3%/1.6% ปี 2025-26 โดยปรับเพิ่ม Dividend payout ratio เป็น 57-58% และคาดจ่ายเงินปันผล 12 บาท/หุ้นในปี 2025-26 อย่างไรก็ดี ยังไม่เพียงพอจะทำให้ ROE เพิ่มขึ้น โดยคาดว่า ROE จะลดลงที่ 8.5%/8.3% ในปี 2025-26
การประชุมนักวิเคราะห์
- ภายใต้ความท้าทายทางเศรษฐกิจ KBANK ยืนยันเป้าหมาย ROE 2 หลัก แต่ไม่สามารถบอกช่วงเวลาที่ชัดเจน ขึ้นกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ หลังจากคาดเศรษฐกิจไทยเติบโตต่ำลงที่ 1.5% ในปี 2025 จากเดิมคาดโต 3.7% โดยเป้าหมายธุรกิจระยะกลางสร้างการเติบโตที่มีเสถียรภาพบน (1) ดำเนินกลยุทธ์ 3+1 เน้นการเติบโตเชิงคุณภาพ เพิ่ม Productivity และควบคุมต้นทุน (2) สร้างงบดุลแข็งแกร่ง ด้วยการเพิ่ม CET 1 Ratio จาก 13-15% เป็น ≥15% (2026-2029) โดยคาดว่าผลกระทบจาก Basel Ill reform มีผล 1-2% ของเงินกองทุน โดยใน 2Q25 KBANK มี CET1 Ratio ที่ 16.8% (3) อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการเพิ่มนโยบายการจ่ายเงินปันผล ≥50% และเพิ่มเป็นระดับปกติที่ 50-60% ในระยะกลาง เทียบกับปัจจุบันที่จ่ายไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินรวม นอกจากนี้ KBANK พิจารณานโยบายการซื้อหุ้นคืน และอาจจ่ายเงินปั่นผลพิเศษในปี 2025 เหมือนเช่นที่ได้จ่ายเพิ่มพิเศษ 2 บาท ในปี 2024
- สินเชื่อ SME มีความเปาะบางและน่าเป็นกังวลมากที่สุด กลยุทธ์การปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวัง และใช้ Data Analytic ช่วยการวิเคราะห์ข้อมูล ขณะที่สินเชื่อรายย่อย เน้นสินเชื่อมีหลักประกัน ฐานลูกค้าเก่าเงินเดือนมากกว่า 3 หมื่นบาทขึ้นไป
- แม้คุณภาพสินเชื่อควบคุมได้ตามเป้าหมาย แต่เพิ่มความระมัดระวังจากความไม่แน่นอน Credit cost ราว 140-160 bps ในระยะกลางเน้นควบคุมคุณภาพสินเชื่อมากกว่าการเร่งขยายสินเชื่อ
- เราปรับลด Cost to income ratio ลง 10-20 bps ที่ 44.1%/44.9% ในปี 2025-26 จากปรับลดค่าใช้จ่ายทางการเงินจากการประกันภัยสุทธิลง ทำให้ปรับประมาณการกำไรขึ้นเล็กน้อย 0.5%/1% โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต 2.3%/1.6% ในปี 2025-26 และปรับเพิ่มการจ่ายเงินปันผลเป็น 12 บาท/หุ้น (เดิม 9.7/9.9 บาท) โดยคาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ 7.4% ในปี 2025-26
- แม้เราเพิ่มประมาณการจ่ายเงินปันผล แต่คาด ROE ยังลดลงที่ 8.4%/8.3% ในปี 2025-26 (2024: 8.7%) ดังนั้น KBANK อาจต้องมีนโยบายซื้อหุ้นคืนเพื่อรักษาระดับ หรือเพิ่ม ROE ในอนาคต
- คาดว่ากำไรใน 2H25 จะกำไรทรงตัว YoY แต่ปรับลดลง HoH จาก NIM ลดลง และค่าใช้จ่ายการดำเนินงานสูงขึ้นจากปัจจัยฤดูกาล