บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย):

Bumrungrad Hospital (BH TB)

กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง

คงคำแนะนำ “ซื้อ” และเพิ่มเป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม

เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น BH พร้อมให้ราคาเป้าหมายที่ 225 บาท และเลือกเป็นหุ้นเด่นร่วมกับ PR9 เนื่องจากการควบคุมต้นทุนที่ยอดเยี่ยมในไตรมาส 2/68 ขณะที่รายได้ในไตรมาส 3/68 มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อ ซึ่งสะท้อนว่าช่วงแย่ที่สุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว เราคาดว่ากำไรในไตรมาส 3/68 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ และครึ่งหลังของปี 2568 จะเติบโต YoY ด้านมูลค่าหุ้นยังคงน่าสนใจ ด้วยค่า P/E ที่ 19 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม เราเชื่อว่าความสามารถในการควบคุมต้นทุนของ BH จะเป็นข้อได้เปรียบเหนือคู่แข่ง โดยเฉพาะในช่วงที่ผู้ป่วยชาวไทยเติบโตช้า และยังมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากโอกาสที่ตลาดจะปรับเพิ่มประมาณการกำไร

โมเมนตัมกลับมาแล้ว

ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ไตรมาส 3/68 เติบโต 3–5% YoY ซึ่งถือเป็นการกลับมาเติบโตเป็นบวกอีกครั้ง หลังจากรายได้ลดลงต่อเนื่อง 4 ไตรมาส สาเหตุหลักมาจากการฟื้นตัวของรายได้จากตะวันออกกลาง โดยเฉพาะเรื่องความซับซ้อนรักษา (intensity) เนื่องจากไม่มีผลกระทบจากเดือนรอมฎอนหรือเหตุแผ่นดินไหวเหมือนช่วงครึ่งปีแรก รวมถึงปริมาณผู้ป่วยก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้น YoY เช่น ยอดผู้ป่วย IPD จากกาตาร์ใน ก.ค. เพิ่มขึ้น 9% YoY ทั้งนี้ สัญญาณการฟื้นตัวเริ่มเห็นแล้วตั้งแต่ไตรมาส 2/68 โดยรายได้จากตะวันออกกลางลดลงเหลือ -12% YoY (เทียบกับ -31% ในไตรมาส 1/68) รายได้จาก UAE ดีขึ้นอย่างชัดเจนเหลือ -1% YoY (จากเดิม -40%) ส่วนกาตาร์และโอมานฟื้นตัวมาอยู่ที่ -13% (จาก -24% และ -34% ตามลำดับ)

ควบคุมต้นทุนได้ดี คาดว่าจะต่อเนื่อง

BH มีการควบคุมต้นทุนได้อย่างดีเยี่ยม โดยต้นทุนรวมลดลง 2% YoY ในปี 67 และอีก 5% ในช่วงครึ่งแรกของปี 68 ส่งผลให้ EBITDA margin ในไตรมาส 2/68 อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 41% ปัจจัยสนับสนุนได้แก่ประสิทธิภาพของบุคลากรที่ดีขึ้น (เช่น การบริหารพนักงานพาร์ทไทม์และ OT ได้ดีขึ้น) รวมถึงต้นทุนยากับงบการตลาดที่ลดลง เนื่องจากฐานต้นทุนได้ลดลงอย่างชัดเจนในไตรมาส 2/68 เราจึงคาดว่าอัตรากำไรจะยังคงอยู่ในระดับสูงไปได้อีกอย่างน้อย 2–3 ไตรมาส ขณะที่ในระยะยาว เราคาดว่า AI และเทคโนโลยีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุนมากขึ้น โดยปัจจุบัน BH มีการใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดแล้ว และมีแนวโน้มขยายการใช้งานเพิ่ม

คาดกำไร 3/68 ทำนิวไฮ เพิ่มประมาณการกำไรปี 68–70 ขึ้น 1–3%

เราคาดกำไรไตรมาส 3/68 อยู่ที่ 2.06 พันล้านบาท (+4% YoY, +11% QoQ) โดยมีสมมติฐานรายได้เติบโต 3% (ต่างชาติ +3%, ไทย +2%) และ EBITDA margin ดีขึ้นเป็น 41.1% (เทียบกับ 40.1% ในไตรมาส 3/67 และ 40.9% ในไตรมาส 2/68) นอกจากนี้เรายังปรับประมาณการกำไรปี 68–70 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 1–3% จากอัตรากำไรที่ดีขึ้น ทั้งนี้เรายังไม่ได้รวมต้นทุนจากโครงการภูเก็ตและ BH ซอย 1 (เริ่มต้นเปิด 1H70, คาดต้นทุนราว 500 ล้านบาท/ปี) ทั้งนี้คาดว่าจะไม่มีผลกระทบมากนัก เพราะมีรายได้เพิ่มมาชดเชย โดยเบื้องต้นคาดว่าดาวน์ไซด์ต่อกำไรปี 70 จะต่ำกว่า 3%

 

- Advertisement -