นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) เปิดเผยว่า สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้พิจารณาและอนุมัติอัตราค่าบริการระบบไฟฟ้า 400 Hz และระบบปรับอากาศ PC-AIR ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานบริการด้านอุปกรณ์บริการภาคพื้นและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการซ่อมบำรุง (GSE) สำหรับการให้บริการ ณ อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยการจัดเก็บค่าบริการระบบไฟฟ้า 400 Hz และระบบปรับอากาศ PC-AIR เดิมนั้นครอบคลุมพื้นที่การให้บริการภายในท่าอากาศยาน (Main Terminal Building) เท่านั้น แต่ยังไม่รวมพื้นที่อาคารใหม่ที่สร้างขึ้นภายหลังอย่าง SAT-1 เข้าไปด้วย บริการดังกล่าวเป็นบริการที่สายการบินจำเป็นต้องรับบริการเมื่อจอดเทียบอาคาร ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการแก่สายการบิน และรองรับการเติบโตของการเดินทางทางอากาศ หลังจากที่ AOT ได้เริ่มให้บริการระบบดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีสายการบินใช้บริการที่ SAT-1 ประมาณ 30 สายการบินต่อเดือน โดยมีสถิติประมาณ 2,000 เที่ยวบินต่อเดือน ซึ่ง AOT คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเก็บค่าบริการดังกล่าวกว่า 300 ล้านบาทต่อปี และเพิ่มขึ้นเมื่อมีสายการบินมาใช้บริการมากขึ้น
นางสาวปวีณา กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดเก็บค่าบริการระบบไฟฟ้า 400 Hz และระบบปรับอากาศ PC-AIR
ที่อาคาร SAT-1 เป็นอีกหนึ่งการเพิ่มรายได้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการการบิน (Non-Aeronautical Revenue) สอดรับกับแนวโน้มการเติบโตของสายการบินที่เข้ามาใช้บริการที่ ทสภ.ที่เพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพด้านแหล่งรายได้ที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งบริการดังกล่าวยังเป็นบริการที่สนามบินชั้นนำทั่วโลกมีให้บริการ ลดการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดมลพิษทางอากาศและเสียงรบกวนจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขณะที่เครื่องบินเข้าจอด ณ หลุมจอดอากาศยานประจำเครื่องบิน ซึ่งเป็นสิ่งที่ AOT ตระหนักและให้ความสำคัญต่อการลดปัญหาที่จะเกิดกับสิ่งแวดล้อมและชุมชน อันจะนำไปสู่ประสิทธิภาพด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาวขององค์กรไปจนถึงการเตรียมความพร้อมให้กับ ทสภ.ในการเป็นศูนย์กลางการบินภูมิภาคต่อไป