นายโอฬาร วงศ์สุรพิเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) หรือ THRE

THRE โชว์ผลงานไตรมาส 2/2568 พลิกมีกำไรสุทธิ 82 ล้านบาท เทียบไตรมาสก่อนขาดทุนจากการตั้งสำรองสินไหมเหตุแผ่นดินไหว พร้อมกด Combined Ratio ภายใต้มาตรฐาน TFRS 17 ลงเหลือ 88% กวาดเบี้ยประกันภัยต่อโตแตะ 1,446 ล้านบาท ส่งซิกครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่อง หนุนภาพรวมปี 2568 โต 8% ตามเป้า   

 

นายโอฬาร วงศ์สุรพิเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) หรือ THRE ผู้ให้บริการด้านการรับประกันภัยต่อ (Professional Reinsurer) ครอบคลุมทั้งการรับประกันภัยทรัพย์สิน อุบัติเหตุ วิศวกรรม ภัยทางทะเลและการขนส่งสินค้า ภายในประเทศและต่างประเทศ เปิดเผยภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ปี 2568 ว่า บริษัทพลิกมีกำไรสุทธิ 82 ล้านบาท เทียบจากไตรมาส 1/2568 ที่มีผลขาดทุน 34 ล้านบาท โดยผลการรับประกันภัยต่อกลับเข้าสู่ภาวะปกติ มีกำไรจากการประกันภัยต่อจำนวน 80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 358% เทียบจากไตรมาส 1/2568 ที่มีผลขาดทุน 31 ล้านบาท

ขณะที่อัตราค่าใช้จ่ายรวม (Combined Ratio) ภายใต้มาตรฐานบัญชีฉบับใหม่ (TFRS 17) กลับมายืนระดับใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 88% ปรับลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่อยู่ระดับ 105% ทั้งนี้เนื่องจากช่วงไตรมาส 1/2568 บริษัทต้องตั้งสำรองสินไหมเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา เต็มจำนวน 1,159 ล้านบาท (บริษัทคาดได้รับประกันภัยต่อส่วนเกินที่ทำไว้ราว 1,069 ล้านบาท ) ซึ่งขณะนี้มีการเรียกคืนสินไหม (เคลม) แล้วเพียง 10-20% จึงมั่นใจว่า วงเงินที่ตั้งสำรองไว้มีความเพียงพออย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม หากจำนวนสินไหมจ่ายจริงน้อยกว่าที่ประมาณการไว้ บริษัทจะทยอยรับรู้คืนทั้งหมด

นายโอฬาร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเบี้ยประกันภัยต่อไตรมาส 2/2568 เติบโตใกล้เคียงกับไตรมาสที่ผ่านมาอยู่ที่ 1,446 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นราว 3% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้ภาพรวมครึ่งแรกปี 2568 บริษัทมีเบี้ยประกันภัยต่อสะสมอยู่ที่ 2,902 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน ตามการขยายตัวของธุรกิจทั้งในส่วนของ personal line และ commercial line อันเป็นผลมาจากการปรับกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับภาวะตลาดโดยรวม ซึ่งบริษัทมั่นใจจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตระดับดังกล่าวได้ต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี หนุนภาพรวมทั้งปี 2568 เติบโตได้ 8% ภายใต้การบริหารต้นทุนค่าใช้จ่าย และควบคุมความเสี่ยงอย่างใกล้ชิด เพื่อผลักดันศักยภาพการทำกำไรให้ปรับดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมาย

- Advertisement -