บล.ฟิลลิป:

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป – MAJOR

กำไร 2Q68 ดีกว่าคาด รอหนังดี 4Q68

Key Point

2Q68 กำไร -46.4% y-y เพราะปีก่อนใช้ Deferred Tax มีภาษีคืน 63 ล้านบาท แต่ปีนี้มีภาษีจ่าย 13 ล้านบาท และดีกว่าคาดจาก SG&A ต่ำคาด โดย 3Q68 เดือน ก.ค. เป็นเดือนที่มีรายได้มากสุดตอนนี้ และยังมีหนังน่าสนใจเข้าฉายอีก โดยเฉพาะ 4Q68 ที่มีหนังใหญ่ฉายหลายเรื่อง ซึ่งในภาคก่อนทำรายได้ไว้สูงมากอย่าง ธี่หยด 3, สัปเหร่อ 2 และ Avatar 3 เรายังคงคาดการณ์กำไรที่ 606 ล้านบาท ราคาพื้นฐาน 12.80 บาท ยังคงแนะนำ “ซื้อ”

2Q68 กำไรสุทธิ -46.4% ที่ 124 ล้านบาท จากภาษีจ่ายที่สูงขึ้น แต่กำไรดีกว่าคาดไว้

2Q68 กำไรสุทธิ -46.4% y-y ที่ 124 ล้านบาท จากภาษีจ่ายที่สูงขึ้น แต่ดีกว่าที่คาดไว้ 103 ล้านบาท รายได้ธุรกิจ -4.6% y-y ที่ 1,940 ล้านบาท รายได้ตั๋ว -2.5% จากหนังทำเงินได้น้อยกว่า โดยหนังทำเงิน 5 อันดับแรก Lilo & Stitch 147 ลบ., How to Train Your Dragon 111 ลบ., Mission-8 70 ลบ., พระแท้คนเก๊ 65 ลบ., Minecraft 62 ลบ. หนังไทยทำรายได้ไม่ดีนักเมื่อเทียบปีก่อน หลานม่า 226 ลบ., อนงค์ 110 ลบ., Godzilla x Kong 83 ลบ., เทอม 3 67 ล้านบาท และ Inside Out-2 63 ล้านบาท รายได้อาหาร/เครื่องดื่ม -2.7% ตามรายได้หนัง รายได้สื่อโฆษณา -23.1% จากการเลื่อนใช้งบไปเป็น 3Q-4Q68 ที่มีหนังใหญ่เข้าฉาย ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่าย -26.7% เพราะปีก่อนมีขายลิขสิทธิ์ ธี่หยด 2, ของแขก และ อนงค์ 1 ส่วนโบว์ลิ่งฯ และพื้นที่เช่า +6.8% และ +4.1% ต้นทุน +1% และ SG&A -8.8% จากการใช้ระบบไอทีต่าง ๆ เข้ามาช่วย และต่ำกว่าคาด 7.4% และมีภาษีจ่าย 13 ล้านบาท จากปีก่อนมีภาษีคืน 63 ล้านบาท เพราะปีก่อนใช้ Deferred Tax จากขาดทุนในการขาย ZAA (MPIC เดิม)

2H68 แนวโน้มดีกว่า 1H68 และ 2H67

แนวโน้มครึ่งปีหลัง (2H68) แนวโน้มดีกว่าครึ่งปีแรก (1H68) โดยเฉพาะ 4Q68 ที่หนังใหญ่เข้าเยอะ โดยในเดือน ก.ค. รายได้หนังดีสูงสุดของปีในตอนนี้ โดย 1 ก.ค.-4 ส.ค. หนัง 5 เรื่องแรกมีรายได้ F1 The Movie ฉาย 27 มิ.ย. MAJOR มีรายได้ 32 ล้านบาท, Jurassic World 4 ฉาย 2 ก.ค. ที่ 195 ล้านบาท, Superman ฉาย 10 ก.ค. ที่ 63 ล้านบาท, คำยอ้อ ฉาย 17 ก.ค. ที่ 51 ล้านบาท, Fantastic Four ฉาย 24 ก.ค. ที่ 52 ล้านบาท ซึ่งหลายเรื่องยังฉายอยู่ เดือน ส.ค. มีเรื่อง ท่าแร่ – 7 ส.ค., เวเพินส์ – 7 ส.ค., ดาบพิฆาตอสูร – 12 ส.ค. ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าจับตามอง เพราะยอดจองตั๋วล่วงหน้ามากกว่า 30 ล้านบาท, เทยไทบ้านเดอะซีรีส์ – 12 ส.ค. และ ผีใช้ได้ค่ะ ของ GDH – 28 ส.ค. ที่ไปได้รางวัลที่เมืองคานส์ แต่เดือน ก.ย. ไม่มีหนังเด่น ๆ มีเพียง The Conjuring 4 – 4 ก.ย. จึงน่าจะอ่อนสุดใน 3Q68

ส่วนใน 4Q68 น่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี จากหนังใหญ่เข้าฉายมาก เริ่มต้นด้วย 1 ต.ค. ธี่หยด 3 ที่ภาค 2 MAJOR มีรายได้ 550 ลบ., 30 ต.ค. อนงค์ 2 ที่ภาค 1 มีรายได้ 110 ลบ., 6 พ.ย. สัปเหร่อ 2 ที่ภาค 1 มีรายได้ 509 ลบ., 18 ธ.ค. Avatar 3 ที่ภาค 2 มีรายได้ 460 ลบ. และมีหนังที่ลุ้นรายได้อีกหลายเรื่องอย่าง มือปืน, เสือ, พระไม้, หมู่บ้านโคกะโหลก, Tron Ares, Mortal Kombat 2, Wicked 2, Predator, Zootopia 2 รวมถึงมีหนังไทยที่ยังไม่ยืนยันการฉายอีก โดยผู้บริหารคาดจะมีหนังที่ทำรายได้เกิน 100 ล้านบาท ราว 8-9 เรื่อง คงต้องติดตามดูกันต่อไป

แจ้งร่วมทุนกับ TKN ในการผลิตและจำหน่ายป๊อปคอร์นนอกโรงภาพยนตร์

MAJOR ได้แจ้งการร่วมทุนกับ TKN ในบริษัท “ทีเคเอ็น แอนด์ เมเจอร์ ป๊อปคอร์น” TKN ถือหุ้น 51% มีฐานะเป็นบริษัทย่อย รวมงบ และ MAJOR ถือหุ้น 49% มีฐานะเป็นบริษัทร่วม รับรู้จากส่วนแบ่งกำไร เงินลงทุนรวม 100 ล้านบาท โดย TKN ผลิตสินค้าสำเร็จรูป จัดการด้านการขายและการตลาด จัดการกระจายสินค้า และสร้างแบรนด์สำหรับตลาดส่งออก ส่วน MAJOR จัดหาสูตรป๊อปคอร์น ให้การสนับสนุนด้านการตลาดและสื่อ ทำการวิจัยและพัฒนารสชาติ และนำการสร้างแบรนด์สำหรับตลาดภายในประเทศ ซึ่งจากเดิม MAJOR ขายได้ 6-7 แสนซองต่อเดือน จะเพิ่มเป็น 2 ล้านซองต่อเดือน ด้วยจำนวนซองที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิด Economy of Scale การทำกำไรจะดีขึ้น โดย MAJOR คาดกำไรที่ได้จากบริษัทร่วมทุนจะเพิ่มขึ้นจากเดิม 3.5-4 เท่า

โรงหนังที่กัมพูชายังไม่ได้รับผลกระทบ แต่กังวลเศรษฐกิจกัมพูชา

โรงหนังในกัมพูชาซึ่งมี 3 สาขา 33 โรง มีรายได้ลดลงบ้าง เพราะไม่ได้เอาหนังไทยไปฉาย แต่หนังกัมพูชามีรายได้ค่อนข้างดี รวมถึงหนังจากอินโดนีเซียและฮอลลีวู้ด ยังไม่มีผลกระทบจากการต่อต้านแบรนด์และสินค้าจากไทย แต่เศรษฐกิจกัมพูชาที่ซบเซาลงหลังเกิดปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาเป็นสิ่งที่ MAJOR กังวลและจับตามองอยู่ ซึ่งรายได้จากกัมพูชาในปี 2567 อยู่ที่ราว 5% ของรายได้ธุรกิจรวม

แนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 12.80 บาท

เรายังคงคาดการณ์รายได้และกำไรสุทธิปี 2568 ที่ 7,468 ล้านบาท และ 606 ล้านบาท โดย 1H68 คิดเป็น 45% และ 26% ของประมาณการ แต่ดูจากหนังฉายอยู่ใน 3Q68 และจะทยอยฉาย โดยเฉพาะใน 4Q68 ที่หนังใหญ่เข้าหลายเรื่อง ซึ่งในไตรมาสที่เคยมีหนังเหล่านั้นเข้าฉาย กำไรจะเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด เมื่อดูในอดีต 4Q67 ที่มี ธี่หยด 3 กำไรไม่รวมรายการพิเศษที่ 212 ลบ. หรือ 4Q66 ที่มี ธี่หยด 1 + สัปเหร่อ 1 + 4 King 2 มีกำไรที่ 335 ลบ. เรายังอิง P/E ที่ 16 เท่า ราคาพื้นฐานอยู่ที่ 12.80 บาท และคาดปันผลที่ 0.44 บาท ยังมี upside และราคาหุ้นคาดจะปรับตัวขึ้นรับหนังใหญ่ที่จะเข้าฉาย คงคำแนะนำ “ซื้อ”

 

- Advertisement -