บล.ฟินันเซีย ไซรัส:
NEO CORPORATE (NEO TB)
Gradual recovery expected in 2H25
- กำไรสุทธิ 2Q25 ต่ำกว่าคาดมากจากค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าคาด
- ผู้บริหารยังคงเป้าหมายการเติบโตรายได้ไว้ แต่ปรับลดเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้นและเพิ่มอัตราส่วน SG&A ต่อยอดขาย
- เราปรับลดประมาณกำไรและราคาเป้าหมายอีกครั้ง
กำไรสุทธิ 2Q25 ต่ำกว่าคาด
NEO รายงานกำไรสุทธิ 2Q25 เพียง 80 ล้านบาท (-69% q-q, -70% y-y) ต่ำกว่าประมาณการของเราราว 17% จากค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าคาด อัตราส่วน SG&A ต่อยอดขายพุ่งขึ้นสู่ 34.2% เทียบกับปกติที่ 28–30% เป็นผลจากการเปิดตัวสินค้าราว 136 SKU, แบรนด์ใหม่ และพรีเซนเตอร์ใหม่ ขณะที่รายได้รวมคงที่ q-q และเติบโตเพียง 3.6% y-y จากกำลังซื้อผู้บริโภคที่ชะลอตัวและการแข่งขันที่รุนแรง อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 38.7% จาก 41.8% ใน 1Q25 และ 46.8% ใน 2Q24 จากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นและค่าเสื่อมเต็มไตรมาสของโรงงานใหม่ ส่งผลให้เป็นกำไรต่ำสุดตั้งแต่บริษัทเข้าตลาดหุ้น
NEO ปรับลดเป้ากำไรปีนี้
ฝ่ายบริหารยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ 2025 ไว้ที่ 7–9% y-y (1H25: +4.2% y-y) แต่ปรับลดเป้่าอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 38–40% (1H25: 40.2%) และปรับเพิ่มอัตราส่วน SG&A ต่อยอดขายเป็น 32% ใกล้เคียงกับระดับปี 2024 (1H25: 31.7%) คาดว่ารายได้ 3Q25 จะเติบโตตามเป้าหมาย เป็นผลจากรายได้ส่งออกที่โตจากฐานต่ำปีที่แล้ว ขณะที่การฟื้นตัวในประเทศยังช้าเนื่องจากกำลังซื้ออ่อนแอ อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายขายอาจลดลงใน 2H25 หลังจากใช้จ่ายหนักตามแผนใน 2Q25 และรายได้จากสินค้ามาใหม่จะเพิ่มขึ้นใน 2H25
ต้นทุนลดลง แต่มีแนวโน้มดีขึ้นใน 4Q25
ต้นทุนวัตถุดิบลดลงอย่างชัดเจน ราคา CPKO เฉลี่ยใน 2Q25 ลดลงเล็กน้อย 3.5% q-q อย่างไรก็ตาม ราคาเฉลี่ย 3QTD ยังคงลดลงต่อเนื่อง (-9.4% q-q) ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างทยอยซื้อวัตถุดิบสำหรับ 4Q25 จึงคาดว่าต้นทุนอาจลดลง q-q อีกครั้งใน 4Q25 อย่างไรก็ตาม เราต้องติดตามแนวโน้มราคา CPKO ต่อไป ปัจจุบัน ราคาเฉลี่ย 2025 YTD ของ CPO และ CPKO อยู่ที่ MYR 4,300/ตัน และ MYR 7,241/ตัน ตามลำดับ ใกล้เคียงกับสมมติฐานของเราที่ MYR 4,639 และ MYR 7,280
ปรับลดประมาณกำไรและราคาเป้าหมาย
เราปรับลดกำไรปี 2025 ลง 11.6% เหลือ 623 ล้านบาท (-38% y-y) คาดว่ากำไร 3Q25 จะฟื้นตัว q-q อย่างค่อยเป็นค่อยไป อยู่ที่ราว 100–110 ล้านบาท และดีขึ้นต่อเนื่องใน 4Q25 ปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 27 บาท (อิง P/E เดิม 13x) แม้ว่าการฟื้นตัวจะช้า แต่เชื่อว่าจุดต่ำสุดผ่านไปแล้วใน 2Q25 ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่เพียง 11.6x 2025E P/E
