บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) มีความเชื่อมั่นว่าจะมีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 หลังจากปรับโครงสร้างการชำระหนี้หุ้นกู้ และแก้ไขปัจจัยชั่วคราวที่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานในไตรมาสที่สอง
ผลประกอบการโดยรวมในไตรมาสที่สองของปี 2568 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1 บริษัทฯ ประสบผลการดำเนินงานที่ขาดทุนสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ (ไม่รวมรายการพิเศษ) 44 ล้านบาท บริษัทมีรายได้รวมลดลง 6.3% จากรับรู้รายได้ลดลงจากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน โดยในส่วนของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่สิ้นสุดสิทธิ Adder ของโรงไฟฟ้าลำปาง ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ลดลงตามฤดูกาล และจากธุรกิจแบตเตอรี่ สำหรับธุรกิจรถโดยสารไฟฟ้าและรถเพื่อการพาณิชย์มีรายได้เพิ่มขึ้น 54% และธุรกิจไบโอดีเซลมีการเพิ่มขึ้นมากกว่า 100% โดยบริษัทฯยังคงมีเงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมดำเนินงานรอบ 6 เดือนอยู่ที่ 4,400 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่สองของปี 2568 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1 บริษัทฯ มีต้นทุนจากการขายและการให้บริการ เพิ่มขึ้น 13.8% ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 29.2% โดยหลักมาจากการได้มาจากการรวมธุรกิจที่ดำเนินการสำเร็จ จากการทยอยซื้อบริษัท เน๊กซ์พอยท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายครั้งเดียว โดยการเปลี่ยนสถานะของ NEX จากเงินลงทุนในบริษัทร่วมเป็นเงินลงทุนในบริษัทย่อยถือว่าเป็นการรวมธุรกิจ ต้องวัดมูลค่าของส่วนได้เสียที่ถืออยู่ก่อนที่จะมีอำนาจควบคุม NEX โดยใช้มูลค่ายุติธรรม ณ วันที่ซื้อ ส่งผลให้รับรู้การขาดทุนจำนวน 393.37 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทฯ มีผลขาดทุนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากลูกหนี้การค้าในไตรมาสที่ 2 เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% โดยสาเหตุหลักเพิ่มขึ้นจากการตั้งสำรองที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากลูกหนี้การค้าของกลุ่มบริษัท ไทยสมายบัส จำกัด ซึ่งเป็นการปรับปรุงรายการทางบัญชีที่ไม่ใช่เงินสด (non-cash items)
ในส่วนธุรกิจผลิตรถโดยสารไฟฟ้าและรถไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ผ่านบริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จำกัด (AAB) โดยได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI พร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถนำค่าใช้จ่ายในการลงทุนยานยนต์ไฟฟ้ามาหักลดหย่อนภาษีได้ถึง 2 เท่าสำหรับรถที่ผลิตหรือประกอบในประเทศไทย ในไตรมาส 2 บริษัทฯ ได้มีการส่งมอบยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในครึ่งปีแรกไปแล้วเป็นจำนวน 80 คัน รวมถึงมีแผนในการส่งมอบต่อเนื่องอีกกว่า 200 คัน ในไตรมาส 3 ของปี 2568 บริษัทฯ มีเป้าหมายสู่การเป็นผู้ให้บริการโซลูชันการขนส่งสีเขียวแบบครบวงจร (Total Green Logistics Solution) ซึ่งครอบคลุมทั้งการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า การบริการหลังการขาย ตลอดจนการให้บริการและอำนวยความสะดวกในการติดตั้งระบบชาร์จไฟฟ้าแบบเร็ว (Fast Charging Technology)
ในส่วนของธุรกิจกำจัดขยะและโรงไฟฟ้าขยะ บริษัทฯ มองเห็นศักยภาพการเติบโตของธุรกิจจัดการขยะอย่างยั่งยืนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตไฟฟ้าจากขยะ ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนของประเทศ ในปัจจุบันบริษัทฯ มีการดำเนินโครงการกำจัดขยะสำคัญในหลายพื้นที่ ได้แก่ โครงการกำจัดขยะมูลฝอยชุมชนบนเกาะล้าน เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โครงการกำจัดขยะมูลฝอยและโรงไฟฟ้าจากขยะ จังหวัดภูเก็ต และโครงการกำจัดขยะมูลฝอยและโรงไฟฟ้าจากขยะ จังหวัดปทุมธานี
EA ได้รับการยอมรับในระดับโลกสำหรับความพยายามด้านความยั่งยืนติดอันดับใน 10% แรกของบริษัทไฟฟ้าทั่วโลกโดย S&P Global Yearbook 2025 ซึ่งเน้นความเป็นเลิศในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ในระดับสากล โดยเป็น 1 ใน 2 บริษัทจากไทยที่ได้รับการจัดให้อยู่ในระดับสูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรมสาธารณูปโภคไฟฟ้าในปีนี้
EA พร้อมเดินหน้าพัฒนาธุรกิจในทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ยานยนต์ไฟฟ้า ระบบกักเก็บพลังงาน และโครงการโรงไฟฟ้าและโรงกำจัดขยะ พร้อมกับดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส รับผิดชอบ และมีธรรมาภิบาล และสร้างสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้นในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง