BC โชว์ครึ่งปีแรก 68 รายได้พุ่ง 43% แตะ 425 ล้านบาท European Holiday หนุนโรงแรมต่างจังหวัดโต ผลักดันธุรกิจเพิ่ม Recurring Income

บมจ.บูทิค คอร์ปอเรชั่น (BC) โชว์ฟอร์มครึ่งปีแรก 2568 รายได้รวม 425 ล้านบาท โตเกือบ 43% รับแรงหนุนกลยุทธ์ขายสินทรัพย์ตามโมเดล Build–Operate–Sale (BOS) ในช่วงต้นปี ผสานการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรม โดยเฉพาะต่างจังหวัดที่แรงต่อเนื่องจากกระแส European Holiday และคาดสดใสต่อเนื่องในไตรมาส 3 แม้ไตรมาส 2 ไม่มีการขายเงินลงทุนในโครงการ ทำให้ผลงานลดลง แต่รายได้โรงแรมยังเติบโตในหลายพื้นที่โดยเฉพาะในต่างจังหวัด เดินหน้าต่อยอดสู่การเป็นผู้นำ Hospitality ด้วยโครงการโรงแรมหรู เจดับบลิว แมริออท แบงค็อก สุขุมวิท 24 และดีลแฟรนไชส์กับ Accor รุกธุรกิจบริหารแบรนด์โรงแรม ตอกย้ำสถานะ Third Party Operator (TPO) ในไทย เสริมพอร์ต Recurring Income มุ่งเติบโตอย่างยั่งยืน

นายปรับชะรันซิงห์ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงกลยุทธ์ภายใต้โมเดล “Build-Operate-Sale” (BOS) เปิดผลงานงวด 6 เดือนแรก ปี 2568 โดย EBITDA ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งอยู่ที่ 198 ล้านบาท เติบโต 95.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน (YoY) ที่ EBITDA 101 ล้านบาท และมีรายได้รวม 425 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% สะท้อนประสิทธิภาพการบริหารและแรงหนุนจากการจำหน่ายสินทรัพย์ตามโมเดลธุรกิจ BOS โดยเฉพาะการขายเงินลงทุนผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล (Tokenization) โครงการ Summer Point ในไตรมาส 1/2568

นอกจากนี้ ธุรกิจโรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ ยังแสดงศักยภาพการเติบโตได้อย่างชัดเจน แม้ช่วงไตรมาส 2 ซึ่งเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว โดยโรงแรมในกรุงเทพฯ มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น ขณะที่โรงแรมต่างจังหวัดโดดเด่นด้วยรายได้ เติบโต 17.5% YoY จากแรงหนุนการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและกระแส European Holiday ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าสู่เมืองท่องเที่ยวสำคัญ สะท้อนโอกาสในการดันอัตราการเข้าพักและรายได้เฉลี่ยต่อห้องให้เติบโตแข็งแกร่งในครึ่งปีหลัง

และอีกไฮไลท์ในไตรมาสนี้ BC เดินหน้าผนึกพาร์ทเนอร์เครือแบรนด์โรงแรมชั้นนำระดับโลก ในช่วงไตรมาส 2 BC ได้ลงนามพัฒนาและบริหารโรงแรม เจดับบลิว แมริออท แบงค็อก สุขุมวิท 24 ทำเลพร้อมพงษ์ หนึ่งในโครงการใหญ่ระดับ 5 ดาวของบริษัท เพื่อเสริมพอร์ตโรงแรมหรูและสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ระยะยาว

และยังได้เซ็นสัญญาแฟรนไชส์กับ Accor ผู้นำธุรกิจโรงแรมระดับโลก เพื่อบริหาร 3 แบรนด์ระดับนานาชาติ ได้แก่ Mövenpick, Mercure และ Handwritten Collection พร้อมได้รับการรับรองสถานะ Third Party Operator (TPO) ของ Accor ในประเทศไทย

ขณะที่ภาพรวมธุรกิจปัจจุบัน BC เปิดให้บริการโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ 10โครงการ แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงรับบริหารโครงการภายนอก เช่น โจโน่ เอ็กซ์ ภูเก็ต กะรน พร้อมธุรกิจพื้นที่เช่า ได้แก่ โครงการโคฟ ฮิลล์ (Cove Hill) ที่มีอัตราการเช่าเพิ่มขึ้นเป็น 72.3% และโครงการซัมเมอร์ พ้อยท์ (Summer Point) ที่แม้ขายเงินลงทุนแล้ว BC ยังคงบริหารโครงการต่อเนื่อง โดยยังมีผลการดำเนินงานที่ดีมาก จากอัตราการเช่าที่สูงระดับ 94%

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2568 BC มีรายได้รวม 77.4 ล้านบาท ลดลง 53.3% YoY จากปัจจัยที่ไม่มีการจำหน่ายเงินลงทุนในไตรมาสนี้ และการขายเงินลงทุนบางส่วนในโรงแรม IBIS ในไตรมาส 3/2567 และ โครงการซัมเมอร์ พ้อยท์ (Summer Point) ในไตรมาส 1/2568 ที่ผ่านมา ส่งผลให้รายได้จากการดำเนินงานลดลง ประกอบกับเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว

“แม้ไตรมาส 2 เผชิญความท้าทายจากเศรษฐกิจ ประกอบกับไม่มีการขายเงินลงทุนในโครงการตามโมเดล BOS ทำให้การเปรียบเทียบผลประกอบการระหว่างไตรมาสอาจไม่สะท้อนศักยภาพที่แท้จริง แต่หากพิจารณาภาพรวมครึ่งปี ที่ EBITDA เติบโตถึง 95.7% บวกกับธุรกิจ Hospitality เรายังคงทำได้ดีและมีการเติบโตในหลายพื้นที่ เราจึงยังเชื่อมั่นในศักยภาพทีมและการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว ขณะที่กลยุทธ์ขยายสู่โรงแรมลักชัวรี่และเพิ่มพอร์ต Recurring Income จะช่วยเสริมความมั่นคงด้านรายได้และกำไรของ BC ในระยะยาว” นายปรับชะรันซิงห์ ทักราล กล่าว

- Advertisement -