นายอนุวัตร โกศล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP

GCAP เผยผลงานครึ่งปีแรก กำไรต่อเนื่อง เร่งเครื่องลุย H2/68 เปิดตัว “สินเชื่อรถเกี่ยวแลกเงิน” เสริมทัพ มั่นใจตอบโจทย์ลูกค้า ดันพอร์ตสินเชื่อปีนี้โตตามเป้า

“บมจ.จี แคปปิตอล หรือ GCAP” ประกาศผลงานไตรมาส 2/68 กำไรต่อเนื่อง ดันครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิรวม 2.34 ล้านบาท ผลจากการบริหารติดตามหนี้อย่างใกล้ชิด สามารถเก็บเงิน ค่างวดได้ตามเป้า ทำให้ ECL ลดลง “อนุวัตร โกศล” ซีอีโอ เผยทิศทางครึ่งปีหลัง เร่งเครื่อง มุ่งสร้างการเติบโตของรายได้จากสินเชื่อภาคการเกษตร เปิดตัว “สินเชื่อรถเกี่ยวแลกเงิน” เสริมทัพ ตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกร เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับประกอบอาชีพ หลังเข้าสู่ ช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิต มั่นใจดันสินเชื่อใหม่โต ผนวกแรงหนุนจากการออกและเสนอขาย หุ้นกู้รุ่นล่าสุด ส่งผลให้บริษัทฯ มีเงินทุนในการขยายการปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมาย

นายอนุวัตร โกศล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP  เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ ในงวดครึ่งปีแรก 2568 มีกำไรสุทธิจำนวน 2.34 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการบริหารคุณภาพลูกหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ลดลง

ในไตรมาส 2/2568 บริษัทฯ มีรายได้จำนวน 30.33 ล้านบาท ขณะที่มีต้นทุนทางการเงินจำนวน 9.70 ล้านบาท ลดลง 3.23 ล้านบาท หรือ 24.97% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการ ไถ่ถอนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระทั้งหมดเมื่อเดือนมีนาคม 2568 ที่ผ่านมา และมี ค่าใช้จ่ายในการบริหาร จำนวน 22.75 ล้านบาท ลดลง 4.65 ล้านบาท หรือ 16.96% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดย เป็นผลจากการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับงวดครึ่งปีแรก 2568 บริษัทฯ เผยผลงานการลดผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น  (ECL) ได้ตามเป้าหมาย ซึ่งเป็นผลจากการควบคุมคุณภาพสินเชื่อ และการติดตามและบริหารคุณภาพ ลูกหนี้ สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ เตรียมเร่งเครื่องมุ่งสร้างการเติบโตของรายได้สินเชื่อในภาค การเกษตร  โดยนอกเหนือจากสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สินเชื่อหลัก บริษัทฯ ได้วางแผนเปิดตัว “สินเชื่อรถเกี่ยวแลกเงิน” มาเสริมทัพ โดยลูกค้าของ จี แคปปิตอล / เกษตรกร ที่สนใจ สามารถนำรถเกี่ยวนวดข้าวมายื่นสมัคร “สินเชื่อรถเกี่ยวแลกเงิน” กับบริษัทฯ เพื่อนำเงินไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยว มั่นใจตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกร และช่วยดันยอดปล่อยสินเชื่อของบริษัทฯ

นายอนุวัตร กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ได้รับอนุญาตการเสนอขายตราสารหนี้ จากสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และได้ดำเนินการออก และเสนอ ขายหุ้นกู้ บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2568 ต่อผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน และสามารถ ระดมเงินทุนจากการออกและเสนอขายหุ้นกู้ เพื่อใช้ใน การปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ, สินเชื่อแบบมี และไม่มีหลักประกัน และสินเชื่อประเภทอื่นๆ ให้บรรลุตามเป้าหมาย

สำหรับความคืบหน้าของโครงการต่างๆ ในกลุ่มธุรกิจ Non-Lending Business มีดังนี้

  • แพลตฟอร์ม “เกษตรแมทช์ชิ่ง” แอปพลิเคชั่นสำหรับให้บริการจองรถเกี่ยวข้าว / ข้าวโพด ปัจจุบันได้เสร็จสิ้นขั้นตอนการพัฒนาแล้ว และมีเป้าหมายจะเปิดให้บริการใน จังหวัดนำร่อง เพื่อรองรับฤดูกาลเก็บเกี่ยว ภายในไตรมาส 4/68
  • โครงการ อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) เพื่อการท่องเที่ยวและการขนส่ง บริษัทฯ ได้ทำการสั่งซื้อโดรนรุ่น EH-216 S-TH จาก Ehang และจะเข้ามาถึงประเทศไทยในเดือน กันยายน 2568 ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการประสานงานเรื่องการขอใบอนุญาตฯ กับ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT)  โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มการบิน แบบไม่มีผู้โดยสารได้ ในไตรมาสที่ 4/68
  • โครงการ สินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพื่อการท่องเที่ยว ตามที่ จี แคปปิตอล ได้ร่วมมือกับ บริษัท เอไอออเนกซ์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า แบรนด์ KYMCO บริษัทฯ เตรียมเปิดให้บริการ “สินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพื่อ การท่องเที่ยว” ที่เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายในปีนี้ และอยู่ระหว่างการศึกษา ความเป็นไปได้ในการขยายบริการ “สินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพื่อการ ท่องเที่ยว” ไปยัง กลุ่มเป้าหมายพื้นที่เกาะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น เกาะพงัน, เกาะสมุย, เกาะยาวน้อย, ฯลฯ

สำหรับโครงการ “สินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพื่อการท่องเที่ยว” เป็นหนึ่งใน โครงการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ทางการเงินของบริษัทฯ ที่สอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโต ด้าน ESG โดย จี แคปปิตอล มีนโยบายการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้กับธุรกิจ / โครงการ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาด้านสิ่งแวดล้อม, การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการดำเนินงานที่สนับสนุนต่อการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เป็นต้น

- Advertisement -