KS Daily View 15 ส.ค. 2025>>> คาด SET Index แกว่งตัว sideway ในกรอบ 1,250-1,275 จุด หลังจาก SET index ได้ไปทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1,275 จุด หรือ -1 SD จากค่าเฉลี่ยย้อยหลัง 15 ปี ของ SET PER band แนะนำ GFPT และ AP
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวผสมผสาน ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.03%, Nasdaq Composite ลดลง 0.01%, แต่ Dow Jones ลดลง 0.02% หลังดัชนีราคาผู้ผลิตเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 ปีในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากต้นทุนสินค้าและบริการที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อโดยรวมกำลังใกล้จะปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ความคาดหวังต่อการลดอัตราดอกเบี้ยลดลง
ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,266.67 จุด ลดลง 10.76 จุด (-0.84%) จากการปรับตัวลดลงของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, กลุ่มพลังงาน, และกลุ่มโรงพยาบาล ในวันนี้ เราคาด SET Index แกว่งตัว sideway ในกรอบ 1,250-1,275 จุด หลังจาก SET index ได้ไปทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1,275 จุด หรือ -1 SD จากค่าเฉลี่ยย้อยหลัง 15 ปี ของ SET PER band มองว่าตลาดอาจกลับมาอยู่ในช่วงของการพักฐานหรือแกว่งตัวขึ้นได้เล็กน้อย หลังได้รับภาพเชิงบวกของการลดดอกเบี้ยและผลประกอบการของหลายบริษัท โดยเฉพาะ big cap ส่วนมากรายงานกำไรออกมาตามคาดและดีกว่าคาดเล็กน้อย ที่อาจหนุนให้ fund flow จากต่างชาติยังไหลเข้าต่อเนื่อง
ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนยังมุ่งเน้นไปยังหุ้นที่รายงานผลประกอบการ 2Q25 ที่แข็งแกร่ง และ มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องใน 3Q25 แนะนำ GFPT และ AP
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
- ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) สหรัฐฯ เดือนกรกฎาคมพุ่ง 0.9% สูงสุดในรอบ 3 ปี จากต้นทุนสินค้าบริการที่เพิ่มขึ้น ทั้งค่าธรรมเนียมการจัดการพอร์ต ค่าที่พัก ค่าโดยสาร และราคาอาหารที่แพงขึ้นมาก โดยเฉพาะผักสดและแห้ง สะท้อนภาพภาระภาษีนำเข้ากำลังส่งต่อถึงผู้บริโภค ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจชะลอการลดดอกเบี้ย ขณะเดียวกันตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงยังไม่ได้สะท้อนการเลิกจ้างวงกว้าง
- ททท.หารือ LOT Polish Airlines และเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ เพื่อผลักดันการเปิดเที่ยวบินตรงจากวอร์ซอสู่สนามบินสุวรรณภูมิ ภูเก็ต และกระบี่ ภายในปี 2026 โปแลนด์เป็นตลาดท่องเที่ยวดาวรุ่ง ปี 2024 มีนักท่องเที่ยว 153,520 คน (+26.87%) และปี 2025 ถึง 3 ส.ค. มีแล้ว 132,748 คน (+30.82%) จุดหมายยอดนิยมคือ กรุงเทพฯ เกาะสมุย ภูเก็ต กระบี่ และเชียงใหม่ มองเป็นบวกกับกลุ่มท่องเที่ยวอย่าง AOT BA CENTEL ERW SHR
- BOI ได้หารือ JETRO และหอการค้าญี่ปุ่น เผยผลสำรวจครึ่งปีแรก 2025 นักลงทุนญี่ปุ่นเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยดีขึ้น โดยดัชนีความเชื่อมั่นปรับขึ้นจาก -11 เป็น -7 และคาด -2 สิ้นปี แม้กังวลภาษีนำเข้าสหรัฐฯ-เงินบาทแข็ง ยังสนใจลงทุนต่อในยานยนต์ไฮบริด อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักร อาหาร และโลหะบีโอไอได้รับคำชมเชย เรื่องอำนวยความสะดวกและมีมาตรการหนุน เช่น ส่งเสริมเทคโนโลยีใหม่ ใช้ Local Content และการย้ายเครื่องจักรจากกัมพูชา มองเป็นบวกกับ AMATA, WHA, ROJNA, และ PIN
- ในขณะเดียวกัน ผลสำรวจสภาธุรกิจสหรัฐ-จีน (USCBC) ปี 2025 ชี้ว่าบริษัทสหรัฐในจีนเผชิญปัญหาภาษีศุลกากรและความตึงเครียดทางการค้ามากขึ้น ทำให้การลงทุนลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เหลือเพียง 48% วางแผนลงทุนจาก 80% ปีก่อน หลายบริษัทสูญเสียยอดขายและย้ายห่วงโซ่อุปทานไปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และเม็กซิโก แม้ยังเห็นจีนเป็นตลาดสำคัญต่อการแข่งขันระดับโลก แต่ความเชื่อมั่นจะไม่ฟื้นหากไม่มีการลดภาษีและเปิดตลาดมากขึ้น ขณะที่ไทยอาจได้โอกาสรับการลงทุนหากมีศักยภาพ
- บริษัท Phillips 66 ได้ลดกำลังการผลิตน้ำมันเบนซินที่โรงกลั่น Bayway รัฐนิวเจอร์ซีย์ (กำลังการกลั่นรวม 258,000 บาร์เรลต่อวัน) หลังเกิดเพลิงไหม้ใกล้หน่วยผลิตน้ำมันเบนซิน โดยเป็นอุปกรณ์เสริมของหน่วย Fluid Catalytic Cracking ที่ติดไฟ สาเหตุยังไม่ชัดเจน คาดว่าจะซ่อมแซมและกลับมาผลิตเต็มกำลังได้ในไม่กี่วัน โดย Bayway ซึ่งผลิตเบนซินราว 155,000 บาร์เรลต่อวัน มองเป็นบวกเล็กน้อยกับกลุ่มโรงกลั่นอย่าง SPRC, TOP, BCP, BSRC
หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:
- GFPT : ราคาพื้นฐาน 13.40 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ GFPT หลังรายงานกำไรใน 2Q25 ดีกว่าที่เราและตลาดคาดการณ์หนุนโดย GPM ที่ดีกว่าคาดด้วยต้นทุนที่ปรับตัวลดลง และคาดการณ์ผลประกอบการใน 3Q25 ยังคงรักษาการเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยเราคาดว่า ราคาขายไก่ใน EU จะปรับตัวดีขึ้นราว 6% ในครึ่งหลังของปี 2025 พร้อมกับต้นทุนการเลี้ยงที่ปรับตัวลดลงจากการนำเข้าถั่วเหลืองเลี้ยงสัตว์ในเดือน กค ที่ผ่านมา พร้อมกับเราคาดการณ์ว่าหากประเทศไทยมีการนำเข้าข้าวโพดจาก US ที่เป็นส่วนหนึ่งของ deal US reciprocal tariffs ก็จะมีต้นทุนที่ถูกลงราว 15-20% เทียบกับการนำเข้าจากเพื่อนบ้านหรือราคาในประเทศ ซึ่งจะมี upside เพิ่มเติมต่อประมาณการกำไรราว 5-10%
- AP: ราคาพื้นฐาน 9.40 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกกับ AP หลังรายงานกำไร 2Q25 ที่ 1.0 พันลบ. ลดลง 21% YoY แต่เพิ่มขึ้น 17% QoQ สอดคล้องกับที่เราและตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 986 ลบ. ที่แสดงให้เห็นถึงสัญญาณการฟื้นตัวจาก 1Q25 ที่เป็นจุดต่ำสุดของปี ทั้งนี้คาดว่า รายได้ และกำไรในครึ่งหลังของปี 2568 จะปรับตัวดีขึ้นอย่างแข็งแกร่ง HoH โดยเฉพาะโครงการ ไลฟ์ อุดมสุข สเตชั่น (4.6 พันลบ. จำนวน 1,004 ยูนิต) จะเป็นโครงการหลักของ AP หนุนการเติบโตใน 3Q25 โดยยอดขายคาดว่าจะอยู่ที่ 30-40% ในขณะเดียวกันการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของกนง. จะหนุนให้ cost of fund ปรับตัวลดลงในอนาคต
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันศุกร์ ติดตาม ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมของจีน (China Industrial production) เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +6.0% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +6.8% YoY และ ดัชนียอดค้าปลีก (China Retail sales) เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +4.6% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +4.8% YoY ปิดท้ายด้วยดัชนียอดค้าปลีกของสหรัฐ (US Retail Sales) เดือน ก.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.6% MoM ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า