เก่งหลังเกมส์ 

SET Index ลดลง 6.55 จุด (-0.53%) ปิดที่ระดับ 1,236 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3.9 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับลง 269 บริษัท, หุ้นปรับขึ้น 198 บริษัท) ตลาดยังอยู่ในโหมดพักตัวลดความร้อนแรงและรอปัจจัยบวกใหม่ โดยมี Sector ปรับลงกดดัชนี คือ กลุ่มน้ำมัน (PTTEP, PTT), กลุ่มโรงกลั่นและปิโตรฯ (TOP, PTTGC, IVL) และกลุ่มอิเล็กฯ (DELTA, CCET) ส่วน Sector ที่ปรับขึ้น คือ กลุ่มค้าปลีก (CPAXT, HMPRO), กลุ่มธนาคาร (BBL, KBANK, TTB) กลุ่มไฟแนนซ์ (SAWAD, THANI) และ กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL, AWC, AOT)

หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ

BTS (+4.17) ดักเก็งกำไรก่อนเปิดให้ลงทะเบียนมาตรการค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ในวันจันทร์ 25 ส.ค. นี้ อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของเรามองบวกกับปัจจัยนี้ไม่มากเนื่องจากเงินอุดหนุนที่จะได้รับจากภาครัฐโดยเฉพาะค่าโดยสารส่วนเพิ่มของจำนวนผู้โดยสารที่สูงขึ้นจากค่าโดยสารที่ถูกลงจะต้องแบ่งกับ ก.คมนาคม ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจา (เดิมคาด BTS รับคนเดียว) แต่ Valuation ที่ค่อนข้างถูกจึงคงคำแนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 6.49 บาท

SAWAD (+3.78) Analyst meeting โทนเป็นบวก โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายรถยึดลดลงใน 2Q25 และมีการบันทึกกลับรายการด้อยค่ารถยึดเข้ามา 150 ล้านบาท 3Q25F แนวโน้มรถยึดลดลงต่อเนื่องมีโอกาสกลับรายการคล้าย 2Q25 นโยบายเงินปันผลเปลี่ยนเป็นเงินสด 100% โดยจะมี dividend payout ปีนี้ไม่น้อยกว่า 40%

TOP (-4.69%) Analyst meeting โทน Slightly negative โดยเฉพาะประเด็นของต้นทุนส่วนเพิ่มของโครงการ CFP บริษัทยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ ทำให้ประเด็นนี้ยังเป็น Overhang กดดันราคาหุ้น แนวโน้มค่าการกลั่นในครึ่งปีหลังมี upside จำกัด มองประเด็นคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียจะผลักดันให้ Crude premium ปรับขึ้นทั้งระบบกระทบค่าการกลั่นของผู้ประกอบการโรงกลั่น

ERW (-3.7%) มีประเด็นให้กังวลหลังบริษัทแจ้งตลาดฯ ระบุว่าได้ดำเนินการทางกฎหมายต่อศาลเพื่อเร่งรัดให้หน่วยงานรัฐปฏิบัติตามข้อผูกพันและกรอบเวลาที่กำหนด หลังการต่อสัญญาเช่ามีความล่าช้า กรณีนี้นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของเราประเมินกรณีเลวร้ายคือไม่ได้ต่อสัญญาเช่าโรงแรม Grand Hyatt Erawan จะกระทบต่อรายได้ของ ERW ประมาณ 20% ต่อปี

- Advertisement -