บล.กสิกรไทย:
GULF แนวโน้มการเติบโตยังคงอยู่ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการที่มีอยู่ในมือและมองหาโอกาสการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) โครงการพลังงานหมุนเวียนภายในประเทศ คาดแนวโน้มกำไร 2H68 เป็นบวก หนุนจากกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้นจากโซลาร์ฟาร์ม ส่วนแบ่งกำไรที่สูงขึ้นจากโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ ADVANC และศูนย์ข้อมูล มุมมองหลังการประชุมนักวิเคราะห์
- กำไรปกติอยู่ที่ 7.1 พันลบ. เพิ่มขึ้น 28% YoY และ 9% QoQ กำไรปกติสอดคล้องกับประมาณการของเรา กำไรปกติครึ่งแรกปี 2568 คิดเป็น 50% ของประมาณการทั้งปีที่ 2.7 หมื่นลบ.ของเรา
- ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์ไตรมาส 2/68 ของ GULF เป็นบวกเล็กน้อย บริษัทฯ มุ่งเน้นการพัฒนาโครงการที่มีอยู่ในมือและมองหาโอกาสการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) ในโครงการพลังงานหมุนเวียนภายในประเทศ
- มองหาโอกาสในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน GULF ตั้งเป้าพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนขนาด 3.5GW ในมือให้เสร็จสิ้นภายใน 5 ปีข้างหน้า โดยบริษัทมองว่าอากาสในการเปิดประมูลพลังงานหมุนเวียนภายในประเทศรอบต่อไปน่าจะมีหลังปี 2573 เนื่องจากข้อจำกัดด้านโครงข่ายไฟฟ้า จนกว่าจะถึงตอนนั้น GULF จะมองหาโอกาสในการทำ M&A ในสินทรัพย์พลังงานหมุนเวียนในประเทศจากบริษัทอื่นหรือการเป็นพันธมิตร
- แนวโน้มกำไรครึ่งหลังปี 2568 เป็นบวก เรามีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไรของ GULF ในครึ่งหลังปี 2568 แม้ว่าเราจะเห็นรายได้จากเงินปันผลจาก KBANK ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในครึ่งหลังปี 2568 (การจ่ายปันผลระหว่างกาล) เมื่อเทียบกับครึ่งแรกปี 2568 (การจ่ายปันผลทั้งปี) แต่เราเชื่อว่าผลสนับสนุนจากแหล่งรายได้อื่นจะชดเชยได้เต็มที่ เราคาดว่าปัจจัยหนุนกำไรในครึ่งหลัง 2568 ได้แก่ 1) การปรับค่าความพร้อมจ่าย (capacity payment) ของ Jackson ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐฯ (1.2GW สัดส่วนถือหุ้น 49%) ขึ้น 9 เท่าเป็น 272 ดอลลาร์สหรัฐฯ/MW/วัน ซึ่งจะเพิ่มส่วนแบ่งกำไรให้กับ GULF ราว 600 ลบ. ในครึ่งหลังปี 2568 เมื่อเทียบกับครึ่งแรกปี 2568 2) การทยอยดำเนินงานของศูนย์ข้อมูลขนาด 25MW ที่ GULF ถือหุ้น 40% เราคาดว่าจะสร้างรายได้ราว 150 ลบ. ในครึ่งหลังปี 2568 3) กำไรของ ADVANC เติบโตในครึ่งหลังปี 2568 จากการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านคลื่นความถี่ 400 ลบ. 4) การ COD ของโซลาร์ฟาร์มขนาด 600MW ในไตรมาส 4/2568
- งบดุลแข็งแกร่งหนุนการเติบโต เรามองว่า GULF อยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งในการระดมทุนเพื่อการเติบโตสำหรับโครงการในอนาคตและโครงการที่มีศักยภาพ บริษัทฯ มีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E ratio) ที่ 0.9 เท่า ณ ไตรมาส 2/2568 ซึ่งหมายความว่าสามารถกู้ยืมได้สูงสุด 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จนกว่า D/E จะกลับไปที่ 2 เท่า ซึ่งเป็นระดับก่อนการควบรวม บริษัทยังสามารถออกหุ้นกู้ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำที่ 1.8-2.0% ในรอบล่าสุด ซึ่งเราคาดว่าจะช่วยลดต้นทุนเงินทุนเฉลี่ยของ GULF ในอนาคต
- แนะนำ “ซื้อ” และ TP ที่ 61.00 บาท