บล.กสิกรไทย:
KS Strategy : GDP แกร่งกว่าประเมินหนุนตลาดปรับประมาณการ
- เศรษฐกิจไทยขยายตัวแข็งแกร่งกว่าที่คาดในไตรมาส 2/2568 GDP ไทยขยายตัว 0.6% QoQ และ 2.8% YoY ในไตรมาส 2/2568 ชะลอตัวจาก 3.1% YoY ในไตรมาส 1/2568 แต่สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 2.7% YoY
- การบริโภคภาคเอกชนถูกกดดันจากการใช้จ่ายด้านบริการ การบริโภคภาคเอกชนชะลอตัวมาอยู่ที่ 2.1% YoY ในไตรมาส 2/2568 จาก 2.5% YoY ในไตรมาส 1/2568 เนื่องจากการใช้จ่ายด้านบริการอ่อนแอ แม้ว่าการซื้อสินค้ากึ่งคงทนและสินค้าคงทน โดยเฉพาะรถยนต์ จะมีการปรับตัวดีขึ้น
- การใช้จ่ายภาครัฐชะลอตัวลงเมื่อผลจากฐานต่ำเริ่มหมดไป การใช้จ่ายภาครัฐเพิ่มขึ้น 2.2% YoY ในไตรมาส 2/2568 ลดลงจาก 3.4% YoY ในไตรมาส 1/2568 สะท้อนถึงการเบิกจ่ายค่าตอบแทนและการจัดซื้อจัดจ้างที่ชะลอตัวลง
- การลงทุนออกมาดี โดยเฉพาะการลงทุนภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชนกลับมาขยายตัว 4.1% YoY ในไตรมาส 2/2568 หลังจากหดตัวติดต่อกัน 5 ไตรมาส โดยได้รับแรงหนุนจากการลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ ขณะที่การก่อสร้างยังคงอ่อนแอ การลงทุนภาครัฐก็เติบโตแข็งแกร่งเช่นกันที่ 10.1% YoY ในไตรมาส 2/2568 แต่ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัว 26.3% YoY เนื่องจากผลของฐานต่ำจากปีก่อนเริ่มหมดไป
- การส่งออกยังคงได้รับแรงหนุนจากการเร่งซื้อก่อนมาตรการภาษีตอบโต้สหรัฐฯ การส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นแตะ 14.3% YoY จาก 13.8% YoY ในไตรมาสก่อนนำโดยคอมพิวเตอร์ และชิ้นส่วนยานยนต์ แม้ว่าการส่งออกบริการ (การท่องเที่ยว) ชะลอตัวลงมากเหลือ 2.7% YoY ในไตรมาส 2/2568 จาก 7.0% YoY ในไตรมาส 1/2568 เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาลดลงจากความกังวลด้านความปลอดภัย ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 10.8% YoY จาก 2.1% YoY กลบผลบวกจากการส่งออกที่ทำได้แข็งแกร่ง
- สภาพัฒน์ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ไทยปี 2568 จาก 1.8% เป็น 2.0% ด้วยการเติบโตของ GDP ที่ออกมาแข็งแกร่งกว่าคาด และการขยายตัวในครึ่งปีแรกทำได้ที่ 3.0% สภาพัฒน์จึงปรับประมาณการ GDP ไทยปี 2568 ขึ้นเป็น 1.8–2.3% (ค่ากลาง 2.0%) จากเดิมที่ประมาณการไว้ 1.3–2.3% (ค่ากลาง 1.8%)
Implications and Recommendation
- คาดว่าจะมีการปรับประมาณการ GDP ในตลาดเพิ่มขึ้นตามมา เรามองข้อมูล GDP ไทยที่รายงานออกมาดังกล่าวเป็นบวก ซึ่งอาจส่งผลให้มีแนวโน้มที่จะนำไปสู่การปรับเพิ่มประมาณการ GDP ในตลาด อีกทั้งสะท้อนความเสี่ยงเชิงลบที่จำกัดต่อ คาดการณ์กำไรต่อหุ้น (EPS) ของตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนฯ ในไตรมาส 2/2568 ออกมาดีกว่าที่คาด อย่างไรก็ตาม ตัวเลข GDP ที่ออกมาดี ไม่ดีแบบรอบทุกด้าน โดยการบริโภคและการท่องเที่ยวยังคงถูกกดดันจากกำลังซื้อที่อ่อนเอและจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง ขณะที่กลุ่มยานยนต์อาจได้รับความเชื่อมั่นเชิงบวกจากสัญญาณการฟื้นตัว ขณะที่ภาคการลงทุนเอกชนที่แข็งแกร่งประเมินเป็นบวกต่อกลุ่มธนาคารและนิคมอุตสาหกรรม มองไปข้างหน้าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอตัวลงชัดมากขึ้นในครึ่งหลังปี 2568 ท่ามกลางแรงกดดันจากภาวะเงินฝืด ทำให้เราคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมในช่วงปลายปีนี้อีกอย่างน้อย 1 ครั้ง ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อกลุ่มการเงินและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์