KS Daily View 27.08.2025 >>> คาดงาน Thailand focus อาจช่วยหนุนดัชนี คาด SET วันนี้ 1,235-1,265 จุด แนะนำ KTB และ COM7

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.41%, Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.44%, และ Dow Jones เพิ่มขึ้น 0.30% หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของหุ้น Eli Lilly และ Nvidia ก่อนรายงานงบประจำไตรมาสในวันพุธนี้ ซึ่งรายงานผลประกอบการที่ออกมาอาจเป็นปัจจัยกระตุ้น หรือลดแรงซื้อของหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI ในขณะเดียวกันการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ปลดผู้ว่าการธนาคารกลาง ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐฯ มากขึ้น

ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,251.26 จุด ลดลง 11.41 จุด (-0.90%) จากการปรับตัวลงของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, กลุ่มขนส่ง, และกลุ่มพลังงาน ในวันนี้ เราคาด SET Index จะแกว่งตัว sideway up ได้เล็กน้อยอยู่ในกรอบ 1,235-1,265 จุด จากแรงหนุนของงาน Thailand focus โดยเรา สถิติย้อนหลัง 10ปี พบว่าในช่วงสัปดาห์หลังจัดงาน SET+0.8%, Fund Flow ต่างชาติซื้อสุทธิประมาณ 1.4พันล้านบาท ในขณะที่ THB +0.2% โดยกลุ่มที่ปรับขึ้น Outperformed ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่ม Domestic play นำโดย Finance, Property, Bank , Media , Commerce ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนแนะนำหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะและมีแนวโน้มการเติบโตของกำไรใน 2H25 อย่าง KTB และ COM7

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1) รัฐมนตรีและรมว.คมนาคม เปิดเผยว่า นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายสำหรับสายสีแดงและสายสีม่วงจะขยายใช้ต่อเนื่องถึงวันที่ 30 ก.ย. 2569 โดยไม่ต้องขอต่ออายุรายปีอีก เพื่อรองรับการบังคับใช้กฎหมายถาวรในอนาคต ทั้งนี้ จำเป็นต้องแก้ไขสัญญาสัมปทานกับเอกชนผู้รับสัมปทานทั้ง 4 เส้นทาง (สีชมพู สีเหลือง สีเขียว และสีน้ำเงิน) โดยเพิ่มสัดส่วนแบ่งรายได้ให้รัฐจากเดิม 15% เป็น 25% หากปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นตามเป้า โดยมีการหารือร่วมกับ BTS และ BEM

2) สหรัฐฯ และอินโดนีเซียได้บรรลุข้อตกลงในหลักการที่จะยกเว้นการเก็บภาษี 19% สำหรับการส่งออกโกโก้ น้ำมันปาล์ม และยางจากอินโดนีเซีย ซึ่งเดิมสหรัฐเริ่มบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม โดยการยกเว้นนี้จะมีผลเมื่อทั้งสองฝ่ายลงนามในข้อตกลงขั้นสุดท้าย แต่ยังไม่มีกำหนดเวลาแน่ชัด โดยอินโดนีเซียย้ำว่าสินค้าเหล่านี้สหรัฐไม่ได้ผลิตเอง และจะถูกลดภาษีเหลือ 0% หรือใกล้เคียง 0% ซึ่งสอดคล้องกับสถานะที่อินโดนีเซียเป็นผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มและยางรายใหญ่ของโลก มองเป็นลบกับ STA TEGH

3) Apple มีแผนจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในวันที่ 9 ก.ย.ที่สตีฟ จ็อบส์ เธียเตอร์ เมืองคูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย พร้อมกับข้อความเชิญว่า “Awe dropping” โดยงานดังกล่าวจะเริ่มขึ้นในเวลา 10.00 น.ตาม เวลาฝั่งตะวันตกของสหรัฐ หรือตรงกับ 24.00 น.ตามเวลาไทย มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกกับ COM7 SYNEX ADVICE

4)กรมการท่องเที่ยวและกีฬารายงานตัวเลขนักท่องเที่ยว ในช่วงวันที่ 18-24 ส.ค. ที่ 562,870 คนลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 8.2% เนื่องจากเข้าสู่ช่วงท้ายของฤดูกาลท่องเที่ยว (Summer holiday) ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวในช่วงวันที่ 1 ม.ค.-24 ส.ค. อยู่ที่ 21.37 ล้านคน ลดลง 7.1% YoY ชะลอตัวลงเทียบกับ ตัวเลขนักท่องเที่ยวในช่วงวันที่ 1 ม.ค.-31 ก.ค. อยู่ที่ 21.37 ล้านคน ลดลง 6.4% YoY มองเป็นลบเล็กน้อยกับกลุ่มท่องเที่ยว CENTEL ERW SHR BA AAV

5)รัสเซียปรับเพิ่มแผนการส่งออกน้ำมันดิบจากท่าเรือฝั่งตะวันตกขึ้น 200,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนสิงหาคม รวมเป็นราว 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังจากการโจมตีด้วยโดรนของยูเครนทำให้โรงกลั่นเสียหายและเหลือน้ำมันดิบมากขึ้นสำหรับการส่งออก ขณะนี้ท่าเรือ Ust-Luga เดินเครื่องได้เพียงครึ่งหนึ่งของกำลังการผลิต และมีการเบี่ยงปริมาณไปยัง Novorossiisk และ Primorsk แทน ความเสียหายต่อท่อส่ง Druzhba อาจลดกำลังส่งออกได้ถึง 500,000 บาร์เรลต่อวัน มองเป็นลบเล็กน้อยกับ PTTEP

Daily pick

KTB: ราคาพื้นฐาน 26.50 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ KTB จากแนวโน้มกำไรใน 2H25 จะปรับตัวดีขึ้น HoH โดยมีแรงหนุนจากค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญ (credit cost) จะลดลงต่อเนื่อง และ กำไรจากการลงทุนใน THAI ประกอบกับ การกลับรายการ ECL อาจเป็นแรงหนุนระยะสั้นต่อความสามารถในการทำกำไรใน 2H25 อีกทั้งเชื่อว่า KTB ยังคงมีโอกาสในการเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผล ขณะที่ผู้บริหารกำลังพิจารณาทั้งอัตราการจ่ายเงินปันผลที่เหมาะสมซึ่งให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจแก่ผู้ถือหุ้น และโอกาสในการซื้อหุ้นคืนในอนาคต โดยเราคงสมมติฐานอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 50% โดยทุก ๆ การเพิ่มขึ้น 5% ของอัตราการจ่ายเงินปันผลจะช่วยเพิ่มอัตราตอบแทนจากเงินปันผลอีก 70bps ต่อปี

COM7 : ราคาพื้นฐาน 26.28 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อเนื่องกับ COM7 หลังบริษัทสามารถรัษา GPM ที่ระดับ 13.7% ใน 1H25 เทียบที่เราคาดการณ์ไว้ที่ 13.3% ในขณะเดียวกัน ความต้องการด้าน IT ยังคงแข็งแกร่งและการขยายพอร์ตโฟลิโอของโปรแกรม U-fund ปัจจัยหนุนการเติบโตในช่วงครึ่งหลังของปี อีกทั้ง Apple มีแผนจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ อย่าง iPhone 17 ในวันที่ 9 ก.ย. ที่จะช่วยหนุนยอดขายใน 2H25

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพุธ ติดตาม รายงานคลังสินค้าน้ำมันดิบ (US Crude Oil Inventories) จากองค์กรข้อมูลด้านพลังงาน เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ปรับตัวลดลง 6.014 ล้านบาร์เรล
  • วันพฤหัสบดี ติดตามการรายงานครั้งที่สองของ GDP 2Q25 สหรัฐอเมริกา ตลาดคาดที่ 3.1% เทียบกับครั้งก่อนหน้าที่ 3.0% ปิดท้ายด้วย จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดคาดการณ์ที่ 2.30 แสนตำแหน่งเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.35 แสนตำแหน่ง
  • วันศุกร์ ติดตามรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล (US Core PCE Price Index) เดือน ก.ค. ตลาดคาดที่ 2.9% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 2.8% YoY
- Advertisement -