หากมีความคืบหน้าการเมืองจะเป็นปัจจัยหนุน
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดลบ 92 จุด (-0.2%) รับแรงกดดันจากหุ้น DELL , NVIDIA รวมไปถึงว่าระดับราคาสินค้าจากภาษีเริ่มส่งผลต่อทิศทางเงินเฟ้อ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.7% ตลาดจับตารอดูอุปสงค์ในสหรัฐฯ ที่อ่อนแอและอุปทานเพิ่มขึ้น
Market Outlook
คืนวันศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ (PCE) พบว่าขยายตัว 2.6%YoY และเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core PCE) ขยายตัว 2.9%YoY ทั้งสองข้างต้นเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ โดยรวมก็กดดันทำให้ US Bond Yield ปรับลง พร้อมกับการอ่อนค่าของ Dollar Index สะท้อนถึงความคาดหวังเชิงผ่อนคลายเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (ความเห็นจาก CME FED Watch ล่าสุด ให้น้ำหนักราว 86% ที่ FED จะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนกันยายน)
ทั้งนี้ปัจจัยต่างประเทศเริ่มทรงตัว มิได้มีปัจจัยที่ร้อนแรงใดๆ แต่ในประเทศค่อนข้างมีน้ำหนัก (1) ธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานภาวะเศรษฐกิจในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมาพบว่าชะลอลงจากเดือนก่อน ผลจากภาคบริการที่ลดลง เพราะการท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศที่ลดลง แต่การส่งออกดีขึ้น โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อมองไปข้างหน้า ธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่าการบริโภคมีแนวโน้มทรงตัว เพราะเห็นสัญญาณความเชื่อมั่นที่ลดลงต่อเนื่อง สอดคล้องกับภาคอสังหายที่ธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่าอุปสงค์หดตัวลงทั้งแนวราบและอาคารชุด สะท้อนจากที่อยู่อาศัยที่ได้รับการปล่อยสินเชื่อหดตัวต่อเนื่อง และทำให้อุปทานเปิดขายใหม่ทั้งจากแนวราบและห้องชุดหดตัวลง โดยรวมสะท้อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจไทยที่ยังอ่อนแรงและแนวโน้มข้างหน้ายังไม่สดใส (2) ปัจจัยการเมืองในประเทศในวันศุกร์ช่วงบ่ายที่ผ่านมาพบว่าศาลได้ตัดสินให้คุณแพทองธารพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี (6 : 3) ทำให้จากนี้จำเป็นจะต้องสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะมาจากท่านไหน โดยแคนดิเดตที่มีความเป็นไปได้มากสุดจะได้แก่ คุณอนุทินจากพรรคภูมิใจไทย และคุณชัยเกษมจากพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ตัวแปลสำคัญที่สุดก็คือพรรคประชาชนที่ครองเสียงสมาชิกผู้แทนราษฎรอยู่ราว 143 เสียง สถิติที่ผ่านมาหลังจากนายกพ้นตำแหน่ง SET INDEX ปรับลง 1.3% (รอบคุณเศรษฐา ทวีสิน) แต่จากนั้นพอได้นายกรัฐมนตรี SET INDEX ก็กลับมาฟื้นตัว (วันศุกร์ปรับลง 1.08%) ใกล้เคียงกับสถิติ แต่ไม่ว่าอย่างไรปัจจัยการเมืองเป็นเพียงระยะหนึ่งท้ายที่สุดการเติบโตทางเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนจะมีนัยยะมากกว่า คืนนี้ไม่มีปัจจัยสำคัญต้องติดตาม แต่ระหว่างวันรอดูความคืบหน้าด้านการเมือง
วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1225 – 1250 เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังแนะ Wait & See รอดสถานการณ์การเมืองและยังไม่แนะสะสมจาก Valuation ยังไม่น่าสนใจ อย่างไรก็ตามระยะสั้นเลือก Defensive (BDMS) การเงิน (MTC SAWAD)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
BDMS (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 26.00 บาท)
3Q25 เรามองว่าผลประกอบการจะเติบโตแบบชะลอตัว YoY จากฐานผู้ป่วยโรคระบาดที่สูงในปีก่อน ประกอบกับกลุ่ม CLMV ที่มีแนวโน้มอ่อนตัวจากความกังวลชายแดนไทยกัมพูชา ทั้งนี้ยังคงคาดการฟื้นตัวดี QoQ จากโรคระบาดที่มากชิ้นหลังหน้าฝน และสัดส่วนผู้ป่วยโรคชับซ้อนที่คาดเติบโต YoY หนุนอัตรากำไรชั้นต้นปรับตัวสูงขึ้นใน 2H25
WHA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 5.10 บาท)
ปัจจัยบวกจากยอดขายที่ดินที่ยังทำได้ดี รวมกับการมีลูกค้าที่คาดว่าจะเซ็นสัญญาในช่วง 2H25 แล้วในมือกว่า 1,000 ไร่ และทำให้เป้าการขายทั้งปีของประเทศไทยมีการปรับขึ้นจากเดิม ส่วนปี 26 มีการเจรจาลูกค้ารายใหญ่อยู่ในมือแล้วกว่า 1,000 ไร่