การเมืองไทยชัดเจนขึ้นหนุนหุ้นไทย

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 24 จุด (-0.05%) แต่ Nasdag, S&P500 ปิดแดนบวกเพราะได้แรงหนุนจากหุ้น Alphabet ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 2.2% ท่ามกลางความกังวลว่ากลุ่มผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC+) อาจเพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมปลายสัปดาห์

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ ประกาศตัวเลขตำแหน่งเปิดรับสมัครงานที่ระดับ 7.18 ล้านตำแหน่ง พบว่าแย่กว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ที่ 7.38 ล้านตำแหน่ง ทำให้ความคาดหวังสดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ สูงขึ้น CME FED Watch ล่าสุดให้น้ำหนักราว 96.6% ที่ FED จะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน (วันที่ 17) และสอดคล้องกับการปรับลงของ US Bond Yield โดย Dollar Index อ่อนค่า และทำให้เงินบาทกลับมาแข็งค่าทดสอบระดับ 32.2 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ทั้งนี้ Focus ของนักลงทนในสหรัฐฯ เมื่อคืนไปให้น้ำหนักกับหุ้นรายตัวมากกว่า อย่างในส่วนของ Alphabet หลังมีรายงานว่า Alphabet ไม่จำเป็นต้องขาย Chrome เพราะก่อนหน้าเกิดข้อร้องเรียนว่า Browser ในการค้นหาข้อมูลบน Internet นั้น Chrome ผูกขาดจนเกินไป

ในส่วนปัจจัยในประเทศเผชิญกับความผันผวนทางการเมือง เพราะช่วงเช้าของเมื่อวานพรรคประชาชนตัดสินใจสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยในการจัดตั้งรัฐบาล และไม่นานนักหลังจากปัจจัยดังกล่าว รายงานก็พบว่าพรรคเพื่อไทยตัดสินใจยื่นเรื่องยุบสภา แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงกลางคืนพบว่าองค์มนตรีไม่รับเรื่องการยุบสภาของพรรคเพื่อไทย  และหลังจากนั้นประธานสภาก็มีหนังสือแจ้งเรียนต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่าในวันที่ 5 ก.ย. ให้พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคล ซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี มีความเป็นไปได้สูงที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 จะคือคุณอนุทิน ชาญวีรกูล แต่ทั้งนี้การได้รัฐบาลมาบริหารประเทศก็มองเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด แม้อาจมีอายเพียง 4 เดือน (ข้อเรียกร้องของพรรคประชาชน) แต่ก็เชื่อว่าในช่วง 4 เดือนจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา (กระตุ้นไวสุดได้แก่การบริโภค) มองเป็นปัจจัยหนุนกับกลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (CK STECON) ธนาคาร (BBL KBANK KTB SCB) การเงิน (MTC SAWAD) ปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่ การจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ที่ 7.3 หมื่นราย และผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ 2.3 แสนราย

วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1250 – 1275 ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนจังหวะดัชนีปรับขึ้นยังมองเป็นโอกาสทยอยลดพอร์ตเช่นเดิม และไม่ควรมองบวกกับปัจจัยการเมืองมากเกินไป เพราะพื้นฐานไทยที่ยังอ่อนแอ แต่อย่างไรก็ตามการลงทุนระยะสั้นยังเน้นเลือกหุ้นที่มีปัจจัยหนุน อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL CPN HMPRO) การเงิน (MTC SAWAD) รับเหมาก่อสร้าง

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

STECON (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 9.40 บาท)

ปัจจัยบวกจากแนวโน้มผลประกอบการช่วง 2H25 ยังเห็นการเติบโตได้ต่อเนื่องจาก 1H25 ทั้งจากฐาน Backlog ที่มีอยู่กว่า 100,000 ล้านบาท และการไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนจากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพูไตรมาสละกว่า 100 ล้านบาท

MTC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 45.00 บาท)

ผลการดำเนินงานใน 2Q25 แข็งแกร่ง กำไรสุทธิอยู่ที่ 1.65 พันล้านบาท (+14% YoY, +5% QoQ) และ NPL ratio ลดลงเหลือ 3.6% แนวโน้มผลการดำเนินงานสิน 2H25 คาดจะขยายตัวต่อเนื่องทั้ง YoY และ HoH หนุนจากสินเชื่อขยายตัว

- Advertisement -