KS Daily View 04 ก.ย. 2025>>> คาด SET Index จะแกว่งตัว sideway up ในกรอบ 1,250-1,275 จุด หลังประเด็นการเมืองเริ่มคลีคลาย โดยสภาผู้แทนราษฎรนัดประชุมพิเศษวันศุกร์ที่ 5 ก.ย. 2025 เพื่อพิจารณาเห็นชอบบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 159 แนะนำ CPN และ GULF

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวผสมผสาน ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.51%, Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 1.03%, แต่ Dow Jones ลดลง 0.05% หลังบริษัท Alphabet พุ่งขึ้นหลังจากผู้พิพากษาของสหรัฐฯ ตัดสินไม่ให้แยกบริษัทแม่ของ Google ออกจากกัน อีกทั้งนักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้

ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,259.31 จุด เพิ่มขึ้น 10.53 จุด (+0.84%) จากการปรับตัวขึ้นของกลุ่มค้าปลีก, กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, และกลุ่มขนส่ง ในวันนี้ เราคาด SET Index จะแกว่งตัว sideway up ในกรอบ 1,250-1,275 จุด หลังประเด็นการเมืองเริ่มคลีคลาย โดยสภาผู้แทนราษฎรนัดประชุมพิเศษวันศุกร์ที่ 5 ก.ย. 2025 เพื่อพิจารณาเห็นชอบบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 159 หลังเลขาธิการสภาฯ แจ้งระเบียบวาระเพิ่มเติม ประกอบกับภาพเชิงบวกในต่างประเทศ ซึ่งคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ กรรมการเฟดได้เปิดเผยว่า สนับสนุนให้เฟดเริ่มปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หลังรายงานตัวเลขภาคการจ้างงานของ JOLTS เดือน ก.ค. 2025 ออกมาต่ำกว่าที่คาดสนับสนุนทิศทางในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนแนะนำหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะอย่าง CPN ที่จะมีการเปิดตัวของ Dusit central park และ GULF ที่มีแนวโน้มของกำไรที่ยังคงเติบโตแข็งแกร่งใน 2H25

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  • สภาผู้แทนราษฎรนัดประชุมพิเศษวันศุกร์ที่ 5 ก.ย. 2025 เพื่อพิจารณาเห็นชอบบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 159 หลังเลขาธิการสภาฯ แจ้งระเบียบวาระเพิ่มเติม ขณะเดียวกันความพยายามของนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ ที่ยื่นร่าง พ.ร.ก. ยุบสภาเมื่อ 2 ก.ย. ถูกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้ง “ตีกลับ” จากสำนักองคมนตรีให้พิจารณาข้อกฎหมายใหม่ โดยมีความเห็นจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า รัฐบาลรักษาการไม่อาจกราบบังคมทูลร่าง พ.ร.ก. ยุบสภาได้ จึงยังไม่สามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯ ให้ทรงลงพระปรมาภิไธย มองเป็นบวกกับ CK และ STECON
  • ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ร่วงกว่า 2% แตะ 64.02 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานว่าโอเปกพลัสอาจพิจารณาเพิ่มกำลังการผลิตในการประชุม 7 ก.ย. เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด โดย 8 ชาติสมาชิกหลัก เช่น ซาอุฯ รัสเซีย และยูเออี จะหารือผ่านระบบออนไลน์ มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงลบกับ PTTEP
  • ในขณะเดียวกันการส่งออกน้ำมันเวเนซุเอลาเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 27% แตะเฉลี่ย 966,485 บาร์เรลต่อวัน สูงสุดในรอบเก้าเดือน หลัง Chevron ได้รับอนุญาตให้กลับมาส่งออกไปสหรัฐฯ อีกครั้ง ร่วมกับการขนส่งล็อตใหญ่ไปจีนซึ่งยังเป็นปลายทางหลัก (85% ของยอดรวม) ส่วนที่เหลือส่งไปสหรัฐฯ คิวบา และยุโรป เวเนซุเอลายังส่งออกผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีเพิ่มขึ้นเป็น 275,000 ตัน
  • คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ กรรมการเฟดและสมาชิก FOMC ระบุว่าสนับสนุนให้เฟดเริ่มปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ โดยชี้ว่าตลาดแรงงานเริ่มอ่อนแอและเฟดมีความยืดหยุ่นในการปรับลดตามข้อมูลเศรษฐกิจ พร้อมคาดว่าใน 3–6 เดือนข้างหน้าอาจเห็นการลดดอกเบี้ยหลายครั้ง วอลเลอร์ยังเป็นหนึ่งในสองกรรมการที่โหวตลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 30 ก.ค. และถูกมองว่ามีโอกาสสูงจะเป็นประธานเฟดคนใหม่หลังเจอโรม พาวเวลครบวาระปี 2026
  • อีกทั้งกระทรวงแรงงานสหรัฐเผยผลสำรวจ JOLTS เดือนก.ค. ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานลดลง 170,000 ตำแหน่ง เหลือ 7.18 ล้านตำแหน่ง ต่ำกว่าคาดการณ์ 7.38 ล้านตำแหน่ง สะท้อนอุปสงค์แรงงานที่อ่อนตัวลง ส่วนหนึ่งมาจากผลกระทบของนโยบายเก็บภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทำให้ธุรกิจลังเลในการจ้างงาน หนุนทิศทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

  • CPN: ราคาพื้นฐาน 70.00 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกกับ CPN หลังรายงานกำไรแข็งแกร่งใน 2Q25 ที่ ที่ 4.3 พันลบ. ลดลง 5.5% YoY แต่เพิ่มขึ้น 1.8% QoQ สอดคล้องกับที่เราและตลาดคาดไว้ หากไม่รวมรายได้จากธุรกิจที่อยู่อาศัยที่ลดลง จะส่งผลให้กำไรจากผลประกอบการหลักในส่วนธุรกิจอื่นๆรวมเพิ่มขึ้น 10% YoY และ 3% QoQ โดย CPN สามารถเพิ่มรายได้จากค่าเช่าและบริการในธุรกิจศูนย์การค้าขึ้น 2.5% YoY แต่ลดลงเพียง 0.6% QoQ มาอยู่ที่ 1.07 หมื่นลบ. แม้เป็นช่วงโลว์ซีซันและได้รับผลกระทบบางส่วนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ชะลอตัว ทั้งนี้คาดว่าแนวโน้มรายได้ของ CPN ใน 2H25 จะดีขึ้นกว่า 1H25 จากช่วงไฮซีซันของธุรกิจค้าปลีกและโรงแรม รวมถึงรายได้จากธุรกิจที่อยู่อาศัยที่คาดว่าจะแข็งแกร่งขึ้นจากการโอนยอด backlog คอนโดโดยเฉพาะโครงการ Escent นครสวรรค์ (1.1 พันลบ. ขายแล้ว 94%) ที่จะเริ่มโอนใน 4Q25

  • GULF: ราคาพื้นฐาน 61.00 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ GULF จากกำไร 2Q25 ออกมาที่ 6.4 หมื่นลบ. หนุนโดยกำไรพิเศษ 5.6 หมื่นลบ. จากกำไรจากการซื้อกิจการต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง อันเป็นผลมาจากการควบรวมกิจการกับ INTUCH ขณะที่ กำไรจากผลประกอบการหลักอยู่ที่ 7.1 พันลบ. เพิ่มขึ้น 28% YoY และ 9% QoQ การเติบโตของกำไรหลักได้แรงหนุนจาก กำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น 19% จากการเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ของโซลาร์ฟาร์มและโรงไฟฟ้าก๊าซ IPP ทั้งนี้แนวโน้มการเติบโตใน 2H25 ยังแข็งแกร่งหนุนโดยการปรับเพิ่มค่าความพร้อมจ่าย ของโรงไฟฟ้า Jackson (1,200MW, ถือหุ้น 49%) เพิ่มขึ้น 5-10 เท่า ซึ่งเราคาดว่าจะช่วยเพิ่มกำไรให้ GULF ที่ 1 พันลบ.ต่อปี รวมไปถึงการ COD ของโครงการโซลาร์ฟาร์ม 700MW ใน 4Q25

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพฤหัสบดี ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของไทย (TH inflation) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ -0.70% YoY ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้าและอัตราเงินเฟื้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน ตลาดคาดการณ์ที่ +0.78% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +0.84% YoY ต่อด้วยตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการของสหรัฐ (US ISM Service PMI) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 50.9 จุดเร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 50.1 จุด
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเศรฐกิจของสหรัฐ การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.75 แสนตำแหน่งเร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.73 แสนตำแหน่ง ต่อด้วยตัวเลขอัตราการว่างงาน (Unemployment rate) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 4.3% เร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.2%
- Advertisement -