เก่งหลังเกมส์
SET Index เพิ่มขึ้น 12.25 จุด (+0.98%) ปิดที่ระดับ 1,265 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.16 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับขึ้น 358 บริษัท, หุ้นปรับลง 115 บริษัท) ตอบรับสภาฯ โหวตเลือก คุณ อนุทิน ชาญวีวรกุล เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของไทย ผสานธีมดอกเบี้ยขาลงหนุนแรงเก็งกำไรหุ้นที่ได้ประโยชน์ โดยมี Sector ปรับขึ้นเด่นหนุนดัชนี คือ กลุ่มอิเล็กฯ (DELTA, HANA), กลุ่มท่องเที่ยวฯ (AOT, CENTEL, ERW), กลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT, BJC, DOHOME), กลุ่มปิโตรฯ (PTTGC, IVL, SCC, IRPC) และกลุ่มไฟแนนซ์ (KTC, SAWAD, MTC, JMT) ส่วน Sector ที่ปรับลง คือ กลุ่มธนาคาร (BBL, KBANK, SCB)
หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ
MTC (+3.7%), SAWAD (+2.73%), KTC (+2.61%) วันนี้นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของเราออกบทวิเคราะห์กลุ่มไฟแนนซ์ ให้น้ำหนักเป็น Bullish จาก 4 ปัจจัยหนุน คือ 1) คาดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ช่วยให้การตกชั้นของลูกหนี้ลดลง NPL ลดลง, 2) ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลงหนุน NIM สูงขึ้น, 3) คาดกำไรสุทธิ 3Q-4Q25F และ 2025F คาดฟื้นตัว y-y และ 4) positive sentiment จากประเด็นการเลือกตั้งที่ได้ประโยชน์เม็ดเงินหมุนเวียนในระบบลูกหนี้กลับมาชำระหนี้และใช้จ่ายมากขึ้น โดยเลือก MTC และ KTC เป็น Top Pick เป้าหมาย 58 และ 40 บาทตามลำดับ
CPALL (+1.6%), CPAXT (+3.13%), DOHOME (+3.02%), GLOBAL (+1.94%) นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของเราออกบทวิเคราะห์ ผลสำรวจยอดขายเดือน ส.ค. มีสัญญาณบ่งชี้ภาพธุรกิจผ่านจุดต่ำมาแล้วหลัง SSSG เดือน ส.ค. ติดลบน้อยลงเหลือ -2.9%y-y จาก -3.5%y-y ในเดือน ก.ค. และ -5.6% ใน 2Q25 ผสานกับนักลงทุนมองบวกคาดกลุ่มค้าปลีกจะได้ประโยชน์จากธีม election rally อิงสถิติในอดีตก่อนเลือกตั้ง 6 เดือน หุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับขึ้นเฉลี่ย 4-5%
PTTGC (+4.72%), SCC (+2.82%), IVL (+2.79%), IRPC (+10.26%) ธีม Anti Involution เด่นต่อเนื่อง ล่าสุด Financial Times รายงาน ExxonMobil บริษัทด้านพลังงานรายใหญ่จากสหรัฐฯ กำลังพิจารณาแผนขายและปิดโรงงานเคมีภัณฑ์ในสหราชอาณาจักร (UK) และเบลเยียม เบื้องต้นคาดโรงงานนี้มีกำลังผลิตรวมกันราว 1.5 mta หรือราว 0.6% ของกำลังผลิตเอทีลีนทั้งโลกย้ำภาพทิศทางการปรับลดกำลังผลิตปิโตรเคมีกำลังทยอยเกิดขึ้นทั่วโลก ตาม จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นที่ประกาศนำร่องไปแล้วในช่วง 1 เดือน และ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มปิโตรฯ โดยตรง
STECON (+13.55%), PTG (+6.29%) นักลงทุนเข้าดักเก็งกำไรอิงกระแสจัดตั้งรัฐบาลใหม่โดยมีพรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล โดย STECON เป็นบริษัทในเครือของกลุ่มชาญวีวรกูล และ PTG เป็นบริษัทในเครือของกลุ่มรัชกิจประการ นอกจากนี้ PTG ยังมีปัจจัยหนุนในเชิงพื้นฐาน จากภาพราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลง และกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีฐานะติดลบลดลงส่งผลให้ความเสี่ยงจากการเข้าแทรกแซงราคาขายปลีกจากภาครัฐลดลง เป็นบวกต่อภาพของค่าการตลาดของผู้ประกอบการในกลุ่มสถานีบริการน้ำมัน