KS Daily View 08.09.2025 >>> ตลาดคลายกังวลสุญญากาศการเมือง หลังแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ /มีแผนนำคนละครึ่งมาใช้ คาด SET วันนี้กรอบ 1,255–1,280 จุด แนะนำ BGRIM และ CPAXT
Theme การลงทุนสัปดาห์นี้: คาดดัชนีตลาด SET Index ในสัปดาห์นี้แกว่งตัวในกรอบ 1,250 – 1,280 จุด ประเมินแนวโน้มหลักของดัชนีเป็นภาพของการพักตัว sideway ในกรอบ แต่ bias ตลาดดูเอียงไปทางบวก สะท้อนจากผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่มีมติ 6-3 ตัดสินให้ นายกฯ แพรทองธาร และครม. พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ แต่ตลาดไม่ได้ตอบสนองเชิงลบมากนัก ในขณะเดียวกันประเด็นเรื่องภายในประเทศดูพลิกมาเป็นบวกมากขึ้น หลังสถานการณ์ทางการเมืองมีความชัดเจน สภาโหวตเลือกนายกฯ คนใหม่ เป็นคุณอนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรคภูมิใจไทย และกระแสบวกจากพรรคภูมิใจไทยที่เชิญผู้เชี่ยวชาญคนดังนอกวงการการเมืองเข้ามาช่วยบริหารกระทรวงสำคัญ อีกทั้งเริ่มมีความคาดหวังเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนนำไปสู่การยุบสภาตามข้อตกลงกับทางพรรคประชาชน เช่นโครงการคนละครึ่ง ที่คาดว่าจะถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งเพื่อปลุกกำลังซื้อของภาคประชาชน
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1264.80 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.28% จากสัปดาห์ที่ผ่านหนุนโดยการปรับตัวขึ้นของกลุ่มค้าปลีก, กลุ่มการเงิน, และกลุ่มขนส่ง ในวันนี้เราประเมินว่าตลาดมีแนวโน้มแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1,255–1,280 จุด หลังมีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ คลางกังวลสุญญากาศทางการเมือง อีกทั้งมีแผนที่จะนำโครงการคนละครึ่งกลับมาใช้ แนะนำ BGRIM และ CPAXT
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
1) เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อัญเชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ณ ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้เปิดเผยว่าเตรียม ฟื้นโครงการ “คนละครึ่ง” กลับมาใช้ เพื่อที่จะหนุนการบริโภคในประเทศมากขึ้น มองเป็นบวกกับ CPAXT
2) สหรัฐฯ รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสำหรับเดือน ส.ค. ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอ่อนแอและต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้อย่างมาก โดยมีการจ้างงานเพิ่มเพียง 22,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าที่ตลาดมองที่บริเวณ 75,000 ตำแหน่ง และต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 79,000 ตำแหน่ง ส่งผลให้อัตราการว่างงานปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 4.2% เป็น 4.3% แม้ตัวเลขการจ้างงานอ่อนแอจะหนุนให้ Fed มีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงชัดเจนขึ้น อาจส่งผลให้ Dollar index มีการอ่อนแอค่าลง หนุนให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น กดดันกับ GPM ของกลุ่มส่งออกอย่าง STA STGT DELTA KCE HANA ในขณะเดียวกัน BGRIM AAV CKP จะได้ประโยชน์จาก financial revaluation ใน extra gain ในช่วง 3Q25 ด้วยมีหนี้/financial lease ในรูปของ USD
3) OPEC+ เห็นชอบเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันตั้งแต่เดือนตุลาคม โดยปรับเพิ่มเพียง 137,000 บาร์เรล/วัน ต่ำกว่าที่ผ่านมา (ส.ค.–ก.ย. เพิ่ม 555,000 บาร์เรล/วัน) สะท้อนการชะลอความต้องการโลกและความเสี่ยงอุปทานล้นในฤดูหนาว การตัดสินใจครั้งนี้ยังถือเป็นการเริ่มคลายมาตรการลดกำลังผลิตชุดที่สอง 1.65 ล้านบาร์เรล/วัน เร็วกว่ากำหนดกว่า 1 ปี
4) ในขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีโมฮัมเหม็ด ชิอา อัล-ซูดานี ของอิรักเปิดเผยว่า อิรักหวังให้ OPEC+ ทบทวนโควตาส่งออกน้ำมันใหม่เพื่อสะท้อนศักยภาพการผลิตที่แท้จริง โดยเดือนสิงหาคม อิรักส่งออกเฉลี่ย 3.38 ล้านบาร์เรล/วัน และคาดกันยายนจะเพิ่มเป็น 3.4–3.45 ล้านบาร์เรล/วัน มองเป็นลบเล็กน้อยกับ PTTEP ขณะที่มองเป็นบวกเล็กน้อยกับ SCC จากราคา Naphtha ที่มีแนวโน้มลดลงขณะที่ chain product Olefin มีแนวโน้มอาจปรับตัวดีขึ้นจาก controlled supply ในจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี
5) เรือบรรทุกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) Voskhod จากโครงการ Arctic LNG 2 ของรัสเซียที่ถูกคว่ำบาตร ได้เข้าเทียบท่าที่ท่าเรือ Tieshan มณฑลกวางสีของจีน โดยบรรทุก LNG ราว 150,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นการส่งมอบครั้งที่สองจากโครงการนี้สู่จีน ต่อจากเรือ Arctic Mulan ที่มาถึงปลายเดือนสิงหาคม มองเป็นบวกกับ BGRIM และ GPSC จาก supply LNG ที่ออกมาในตลาดมากขึ้น
Daily pick
BGRIM: ราคาพื้นฐาน 15.00 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ BGRIM จากการฟื้นตัวใน 2H25 และ 2026 จากความกังวลที่ผ่อนคลายมากขึ้นจากการแทรกแซงราคาค่าไฟฟ้าในรัฐบาลใหม่เนื่องจากปัจจุบันค่า Ft อยุ่ในระดับต่ำนอกจากนี้ความกังวลเรื่องการตัดสิน tariffs ของ solar farm ในเวียดนามจะออกมาไม่ได้แย่อย่างที่กังวลไว้ อีกทั้งเราคาดการณ์อัตรากำไรของ BGRIM จะปรับตัวดีขึ้นจากโรงไฟฟ้า cogeneration เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาราคาก๊าซธรรมชาติปรับลดลลง 7%QoQ และด้วยระดับค่าเงินบาทที่แข็งค่าจะส่งผลให้ Spark spread ปรับตัวดีขึ้น เช่นกันใน 2H25 นี้
CPAXT: ราคาพื้นฐาน 29.30 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ CPAXT จากความคาดการณ์การกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะการบริโภคภายในประเทศภายหลังการจัดตั้ง ครม โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูลเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 โดยเราประเมิน SSSG ในช่วง 3Q25 จะสามารถฟื้นตัวได้ดีขึ้นจากไตรมาส 2Q25 มาอยู่ที่ flat จาก -0.6% ซึ่งมาจากการฟื้นตัวของธุรกิจ B2C และมาจากกลุ่มอาหารสด อีกเช่นกันนอกจากนี้เราคาดการณ์ผลประกอบการในช่วง 2H25 จะดีขึ้นจากการเข้าสู่ช่วง High season ของปี รวมถึงด้วย valuation ในระดับปัจจุบันที่ซื้อขายที่ Fwd PE’26 ที่ 14.x เท่า หรือซื้อขายที่ระดับต่ำกว่า -2SD จะเป็นจุดที่น่าสนใจสำหรับการเก็งกำไรเพื่อรับ flow ของ sector rotation ในอนาคต
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
วันจันทร์ ติดตามตัวเลขส่งออกของจีน (China Export) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +5.4% YoY ชะลอตัวจากเดือนที่ผ่านมาที่ +7.2% YoY และตัวเลขนำเข้าของจีน (China Import) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +3.5% YoY ชะลอตัวจากเดือนที่ผ่านมาที่ +4.1% YoY
วันอังคาร ติดตามการปรับปรุงข้อมูลตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm Payrolls) ประจำปีของสหรัฐอเมริกา จากสำนักงานสถิติแรงงาน (Bureau of Labor Statistics – BLS)
วันพุธ ติดตาม รายงานอัตราเงินเฟื้อของจีน (China CPI) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ -0.2% YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.0% YoY ต่อด้วยการายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (US PPI index) ของสหรัฐฯ สำหรับเดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +3.3% YoY ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า และ ดัชนีราคาผู้ผลิตมไม่รวมราคาอาหารลพลังงาน (US Core PPI index) ของสหรัฐฯ สำหรับเดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +3.1% YoY ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า
วันพฤหัสบดี ติดตามผลการประชุมอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB interest rate decision) ตลาดคาดการณ์ว่า ECB จะคงอัตราดอกเบี้ยจากครั้งก่อนหน้า ต่อด้วยการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ (US CPI) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +2.9% YoY เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ +2.7% YoY และตัวเลขเงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (US core CPI) ตลาดคาดที่ +3.1% YoY ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า
วันศุกร์ ติดตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภครัฐจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (Michigan Consumer Sentiment Prelim) เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 58.0 จุดเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 58.2 จุด และดัชนีความเชื่อมันของผู้บริโภคของไทยเดือน ส.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 51.7 จุด