บล.กสิกรไทย:
เปิด 4 หุ้น ผู้ได้รับประโยชน์จาก “วัฏจักรการลดดอกเบี้ย” ที่อาจเกิดขึ้นในครึ่งหลังปี 68 – ปี 69
เราคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกในครึ่งหลังปี 2568 และปี 2569 หลังมีการแต่งตั้งผู้ว่าการคนใหม่ วัฏจักรการผ่อนคลายนี้จะช่วยสร้างบรรยากาศลงทุนเชิงบวกต่อ KKP, AP, CRC และ BAREIT โดยคาด CRC จะได้ประโยชน์จากต้นทุนทางการเงินที่ลดลง กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (AP) คาดได้อานิสงส์จากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีขึ้นหนุนจากต้นทุนการกู้ยืมที่ลดลง ในขณะเดียวกัน BAREIT มี defensive profile และมี upside ต่อมูลค่าหุ้นจากอัตราลดที่ลดลง
AP: ราคาเป้าหมาย 9.40 บาท
- เราชอบ AP จากมูลค่าหุ้นที่น่าดึงดูดใจ (PE และ PBV ปี 2569 ที่ 4 เท่า และ 0.5 เท่า) leverage ระดับต่ำ (0.8 เท่า) และอัตราตอบแทนเงินปันผลระดับสูง (8% ในปี 2569) เราคาดว่ากำไรสุทธิจะฟื้นตัวขึ้นในครึ่งหลังปี 2568 จากมูลค่าการเปิดตัวโครงการใหม่ที่ 5.335 หมื่นลบ., GPM ที่ดีขึ้นและโมเมนตัมยอดขายที่ฟื้นตัวขึ้นในเดือนก.ค. แม้กำไรสุทธิลดลง 5% ในปี 2568 แต่คาดกำไรในปี 2569 จะฟื้นตัวขึ้น 14.7% ซึ่งจะทำให้เป็นหุ้น laggard ที่น่าสนใจภายใต้ธีมวัฎจักรลดดอกเบี้ย
CK: ราคาเป้าหมาย 21.50 บาท
- แนวโน้มเชิงบวกมีปัจจัยหนุนจากการอนุมัติงบประมาณปี FY2569 วงเงิน 3.78 ล้านลบ. โดยรัฐสภา ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงทางการเมืองและสร้างบรรยากาศเชิงบวกต่อการก่อสร้าง คาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2568 จะยังแข็งแกร่งจากการรับรู้รายได้โครงการที่ดำเนินอยู่ โอกาสจากโครงการใหม่ในครึ่งหลังปี 2568 (รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน วงเงิน 2.35 แสนลบ. โครงการทางยกระดับพระราม 9 วงเงิน 3.5 หมื่นลบ. มอเตอร์เวย์สาย M5 วงเงิน 2.5 หมื่นลบ. และรถไฟฟ้าสายสีแดงของ รฟท. วงเงิน 4 พันลบ.) จะเพิ่ม upside
CRC: ราคาเป้าหมาย 23.70 บาท
- แนะนำเก็งกำไร CRC จากการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชน โดยสินค้ากึ่งคงทนและสินค้าคงทนปรับตัวขึ้นในเดือนมิ.ย. 2568 (+1.9% YoY และ +5.6% YoY) มูลค่ายังน่าสนใจด้วย PE ปี 2569 แม้คาดกำไรไตรมาส 3/2568 ยังอ่อนแอ CRC ยังได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง เนื่องจากหนี้สิน 80% เป็นอัตราลอยตัว โดยการปรับลดดอกเบี้ยทุก 25bps คาดจะช่วยหนุนกำไรที่ประมาณ 1.8%
KKP: ราคาเป้าหมาย 63.00 บาท
- แนวโน้ม credit cost ที่ดีขึ้น ผลขาดทุนจากทรัพย์สินยึดคืนที่ลดลง และการเติบโตที่แข็งแกร่งของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยจากกิจกรรมในตลาดทุนที่คึกคักในไตรมาส 3/2568 คุณภาพสินทรัพย์ได้ผ่านช่วงที่ยากที่สุดแล้ว โดย NPL อยู่ในทิศทางลดลงและมีการตั้งสำรองที่เพียงพอ ROE ที่ดีขึ้นในระยะยาวจะมีปัจจัยหนุนจากธุรกิจที่สร้างรายได้จากค่าธรรมเนียม (ความมั่งคั่ง การจัดการสินทรัพย์) ที่เติบโตขึ้น KKP ยังอ่อนไหวต่อการปรับลดดอกเบี้ยน้อยกว่าธนาคารอื่น และคาดว่าจะรายงานการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มธนาคารในปี 2569