เก่งหลังเกมส์
SET Index เพิ่มขึ้น 6.16 จุด (+0.48%) ปิดที่ระดับ 1,299.78 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3.5 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับขึ้น 263 บริษัท, หุ้นปรับลง 198 บริษัท) Sideways up รอความชัดเจน Fed meeting กลางสัปดาห์ หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อาทิ ดอกเบี้ยลง, บาทอ่อนค่า ปรับขึ้นเด่นนำตลาดนำขึ้นโดยกลุ่ม คือ อิเล็กฯ (DELTA), ICT (ADVANC), อสังหาฯ (SC, AP), และกลุ่ม REIT (FTREIT, WHAIR, DIF) ส่วน Sector ที่ปรับลง คือ ค้าปลีก (CPAXT, CPALL, BJC), ปิโตรฯ (IVL), น้ำมัน (PTT)
หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ
BCH (+2.29%), PR9 (+1.36%) ราคาหุ้นยัง laggard ข่าวร้ายทยอยเปลี่ยนเป็นบวก โดยเฉพาะผู้ป่วยคูเวตผ่านจุดต่ำสุดลุ้นฟื้นตัวอิงข่าวโรงพยาบาลไทยรวม 9 แห่งเดินทางให้ข้อมูลรัฐบาลและหน่วยงานที่ประเทศคูเวตในช่วงวันที่ 16-19 ก.ย.นี้, เหตุขัดแย้งไทยกัมพูชาดีขึ้นหนุนผู้ป่วยกัมพูชาฟื้นตัว และจำนวนผู้ป่วยในประเทศโดยเฉพาะไข้หวัดใหญ่เร่งตัวขึ้นสวนทางกับช่วง 2Q25 ที่ชะลอตัว
PTTEP (+1.77%), TOP (+3.52%), SPRC (+1.81%) ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว รัสเซียยูเครนยังตึงเครียดมีรายงานยูเครนโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันดิบและโรงกลั่นในรัสเซียต่อเนื่อง นอกจากนี้สงครามยังเสี่ยงขยายวงกว้างหลังโดรนติดอาวุธของรัสเซียรุกล้ำน่านฟ้าโปแลนด์ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่ม NATO
STA (+3.03%), TRUBB (+7.59%) มีจิตวิทยาบวกจากข่าวผู้ว่าฯ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ระบุไทยประสบผลสำเร็จการเจรจากับรัฐบาลจีนให้ยกเว้นภาษีนำเข้ายางพาราธรรมชาติจากไทย (ครอบคลุมพิกัดศุลกากร HS Code 4001, 4002 ) ที่ขนส่งผ่านช่องทางแม่น้ำโขง เป็น 0% จากเดิมเสียภาษีนำเข้า 20%
AP (+1.23%), SC (+3.13%) กระแสดอกเบี้ยขาลงหนุนนักลงทุนดักเก็งกำไรก่อน Fed meeting ในช่วงกลางสัปดาห์ โดยวันนี้นักลงทุนสลับเข้าซื้อกลุ่มอสังหาฯ เพราะเป็นกลุ่มธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง แต่ราคาหุ้นปรับขึ้นน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่ม ไฟแนนซ์, อิเล็กฯ และ โรงไฟฟ้า
WAIR (+5.31%), DIF (+2.76%), FTREIT (+1.54%), INETREIT (+3.85%) REIT & Infra Fund ปรับตัวขึ้นเด่น เป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์การลงทุนที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่จ่ายปันผลสูงเสมือนเป็น Fixed Income นักลงทุนเข้าล็อก yield เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ชนะดอกเบี้ยเงินฝากและพันธบัตรรัฐบาล กองที่มีโครงสร้างเงินทุนเป็นเงินกู้ดอกเบี้ยลอยตัวในสัดส่วนสูงจะได้ประโยชน์มากขึ้นจากต้นทุนดอกเบี้ยที่ลดลง
ITC (+2.65%), TFG (+1.94%), GFPT (+1%), CPF (+0.85%) นักลงทุนเข้าเก็งกำไรกลุ่มส่งออกหลังวันนี้ค่าเงินบาทอ่อนค่าเร็วสู่ระดับ 31.9 บาทต่อดอลลาร์เทียบกับจุดต่ำสุดวันนี้ที่ 31.38 บาทต่อดอลลาร์ ผสานกับราคาหมูรายสัปดาห์ในเวียดนาม +6% w-w แตะระดับ 59,000 ดองต่อ ก.ก.จากข่าวมีโรคอหิวาต์แอฟริการะบาดในเวียนาม ด้านราคาไก่ในประเทศทรงตัวที่ระดับ 37.5 บาท ยังสูงกว่าระดับต้นทุนที่ 37 บาทต่อ ก.ก.
ERW (+2.94%), AWC (+4.31%), AAV (+2.22%) ประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติใกล้พ้นจุดต่ำสุดของรอบ (ครึ่งปีหลังนักท่องเที่ยวต่างชาติจะทำจุดต่ำสุดในเดือน ก.ย.) และจะเห็นการเร่งขึ้นตั้งแต่เดือน ต.ค.เป็นต้นไป จากผลบวกของวันชาติจีน (Gloden week) ซึ่งปีนี้จะมีวันหยุดยาวตั้งแต่ 1-7 ต.ค. ผสานกับวันนี้ค่าเงินบาทอ่อนค่าแรงเป็นบวกกับหุ้นท่องเที่ยว (เที่ยวไทยถูกลงในสายตาต่างชาติ)