บล.พาย:
TISCO: Tisco Financial Group PCL
คาดผลการดำเนินงานหลักยังไม่ฟื้นตัว
เราคงคำแนะนำ “ถือ” เพื่อรับเงินปันผล แม้คาดผลการดำเนินงานหลักยังไม่ฟื้นตัวในระยะสั้น แต่ผลตอบแทนเงินปันผลสูง และงบดุลที่แข็งแกร่งยังเป็นจุดเด่นในการลงทุน เราปรับเพิ่มมูลค่าพื้นฐานเป็น 104 บาท (เดิม 102 บาท) จากการปรับใช้มูลค่าพื้นฐานปี 2026 และคาด Dividend yield ที่ 7.8% ในปี 2025-26 ด้านผลการดำเนินงานคาดการณ์กำไรในปี 2025 จะปรับลดลงต่อเนื่อง 4.3% และกลับมาขยายตัว 3% ในปี 2026 ผลบวกจากการควบคุมต้นทุนการเงินทำให้ NIM ทรงตัว และควบคุมค่าใช้จ่ายการดำเนินงานส่งผลให้ Cost to income ratio ลดลงในปี 2026 สำหรับใน 3Q25 เราคาดกำไรสุทธิที่ 1.67 พันล้านบาท (-2.6% YoY, +1.5% QoQ) ด้านงบดุลแข็งแกร่ง NPL ratio คาดทรงตัวที่ 2.4% และ Coverage ratio สูงขึ้นที่ 160%
คาดกำไรสุทธิลดลง YoY และ เพิ่มขึ้น QoQ ใน 3Q25
- เราคาดกำไรสุทธิใน 3Q25 ที่ 1.67 พันล้านบาท (-2.6% YoY, +1.5% QoQ) การปรับลดลงของกำไร YoY เนื่องจาก (1) รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงจาก NIM อ่อนตัวต่อเนื่อง (2) สำรองหนี้ฯ เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มความแข็งแกร่งของงบดุลในภาวะที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัว อย่างไรก็ดี คาดกำไรจะปรับเพิ่มขึ้น QoQ เนื่องจากรายได้ที่มีใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากกำไรจากพอร์ตลงทุน และรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นจากธุรกิจหลักทรัพย์ล้อกับภาวะตลาดทุนที่ฟื้นตัว
- คาดสินเชื่อใน 3Q25 จะลดลง 0.5% QoQ จาก +1.9% QoQ ใน 2Q25 หลังจากสินเชื่อสุทธิเดือน ก.ค.-ส.ค. ลดลงราว 0.3% จากเดือน มิ.ย. ส่วนใหญ่จากการปรับลดลงของสินเชื่อบริษัทขนาดใหญ่และสินเชื่อ Floorplan ขณะที่สินเชื่อรายย่อยปรับขึ้นเล็กน้อยจากสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และจักรยานยนต์ใหม่
- ส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) แนวโน้มลดลง QoQ ที่ 4.8% (-17 bps YoY, -2 bps QoQ) เพราะแม้ต้นทุนการเงินจะทยอยปรับลดลง แต่อัตราผลตอบแทนสินเชื่อ (loan yield) ยังคงถูกกดดันจากการปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ ล้อกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับลดลง
- หนี้เสียทรงตัว ส่วนหนึ่งเป็นผลบวกจากโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” และความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อใหม่ เราคาดว่า NPL ratio จะทรงตัว QoQ ที่ 2.4% และ Coverage ratio เพิ่มขึ้นเป็น 160%
คาดกำไรในปี 2025 ลดลง แต่จะกลับฟื้นตัวในปี 2026
- ผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยทำให้รายได้ดอกเบี้ยจากธุรกิจธนาคารอ่อนแอ แม้ว่าการควบคุมต้นทุนการเงินจะส่งผลให้ NIM ได้รับผลกระทบจำกัดหากเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่ เราคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2025 จะปรับลดลง 4% YoY
- อย่างไรก็ดี คาดว่ากำไรจะกลับมาขยายตัว 3% ในปี 2026 เพราะรายได้ดอกเบี้ยสุทธิขยายตัวจากต้นทุนการเงินที่ลดลง และการควบคุมค่าใช้จ่ายการดำเนินงานทำให้ Cost to income ratio ปรับลดลงเหลือ 44.5% ในปี 2026 จาก 45.5% ในปี 2025
- ด้วยเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่แข็งแกร่งสูงราว 19% เราคาด ว่า TISCO สามารถจ่ายเงินปันผลที่ 7.75 บาท/หุ้นในปี 2025-26 ทำให้คาด Dividend yield สูงราว 7.8% เป็นปัจจัยหนุนการลงทุน