บล.กสิกรไทย:

Energy and Utilities Sector ประโยชน์จากอุปทาน LNG ที่อาจล้นตลาด

ผลกระทบ

  • จากข้อมูลข้างต้น เราคาดว่าราคา LNG โลกจะมีแนวโน้มลดลงในช่วงกลางถึงยาว เนื่องจากการเติบโตของความต้องการ LNG ทั่วโลกที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5.2% ต่อปี จะเติบโตช้ากว่าอัตราการเติบโตของกำลังการผลิตใหม่ที่ 7.7% ต่อปี ขณะเดียวกัน เราคาดว่าราคาก๊าซธรรมชาติสหรัฐฯ จะได้รับประโยชน์จากการเริ่มเดินเครื่องกำลังการผลิต LNG ใหม่
  • โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงาน (EIA) คาดว่าราคาก๊าซ Henry Hub จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% หรือจาก 3 ดอลลาร์สหรัฐฯ/mmbtu เป็น 4.6 ดอลลาร์ฯ/mmbtu ภายในเดือนม.ค. 2569 เนื่องจากระดับปริมาณก๊าซในคลังจะถูกดึงออกในอัตราที่เร็วกว่าปกติในช่วงฤดูหนาวนี้ จากการส่งออก LNG ที่สูงขึ้น (+36% เป็น 4.3 พันล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน) และปริมาณการผลิตที่เติบโตช้ากว่า (+1 พันล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน)

คาดส่งผลบวกต่อผู้ผลิต SPP (BGRIM, GPSC) และ BANPU

  • เราคาดว่าราคา LNG ที่ลดลงจะช่วยเพิ่มอัตรากำไรจากการขายไฟฟ้าในตลาดอุตสาหกรรม รวมถึงเพิ่มความเป็นไปได้ในการคืนอัตรากำไรที่หายไปจากการตรึงค่า Ft ในอดีต ในขณะที่ BANPU ยังได้ประโยชน์จากราคาขายของก๊าซธรรมชาติที่คาดจะสูงขึ้นตามราคาก๊าซในสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น
  • เราวิเคราะห์ความอ่อนไหวและพบว่าราคา LNG ที่ลดลง 1 ดอลลาร์ฯ/mmbtu จะหนุนให้กำไรสุทธิของ BGRIM และ GPSC เพิ่มขึ้น 170 ลบ. (+6% ของประมาณการกำไรปี 2569) และ 250 ลบ. (5% ของประมาณการกำไรปี 2569) ตามลำดับ ขณะเดียวกัน ราคาก๊าซธรรมชาติสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นทุก 0.5 ดอลลาร์ฯ/mmbtu จะหนุนให้กำไรสุทธิของ BANPU เพิ่มขึ้น 1.4 พันลบ. (43% ของประมาณการกำไรปี 2569)

มุมมอง KS : ชอบ BGRIM มากกว่าจากธีมลงทุนข้างต้น ในระยะสั้น เราชอบผู้ผลิตไฟฟ้า SPP มากกว่าจากธีมลงทุนนี้จาก upside ของราคา LNG ที่ลดลงคาดจะช่วยเพิ่ม spark spread ขณะที่ผลบวกจากเงินบาท/ดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้นและแนวโน้มขาลงของอัตราดอกเบี้ย (ต่อการประเมินมูลค่าหุ้น) จะเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติม โดยเราเลือก BGRIM เป็นหุ้นเด่นของเราสำหรับธีมการลงทุนนี้อิงจาก TSR รวมที่ 15% ขณะที่ GPSC มี TSR แค่ 6% ในขณะที่ เราคงคำแนะนำ “ถือ” BANPU แม้มี upside มากที่สุดจากราคาก๊าซในสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นจาก TSR ที่ 5% และโอกาสมีผลขาดทุนจาก FX และได้รับผลกระทบจากราคาถ่านหินที่ลดลงในช่วงที่ผ่านมา

- Advertisement -