กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง

ความคืบหน้าโครงการเมกะโปรเจกต์

1) โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (มูลค่าโครงการรวม 2.24 แสนลบ. โดยมี ITD เป็นผู้รับเหมาหลัก) อยู่ระหว่างการตรวจสอบโดยสำนักงานอัยการสูงสุดและใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว

• 2) โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย–จีน ระยะที่สอง (2.37 แสนลบ.) กำลังอยู่ในขั้นตอนร่าง TOR โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
• 3) โครงการรถไฟทางคู่ระยะที่สอง (2.97 แสนลบ.) กำลังเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี
• 4) โครงการสนามบินอู่ตะเภากำลังอยู่ระหว่างการเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา

แนวโน้ม

• เราคาดว่ากำไรปกติของผู้รับเหมาจะปรับตัวดีขึ้น YoY และ QoQ ในไตรมาส 3/2568–4/2568 หนุนจากความคืบหน้าการก่อสร้าง CK คาดว่าจะเป็นผู้ที่ทำผลงานดีที่สุดในไตรมาส 3/2568 โดยกำไรปกติมีแนวโน้มแตะจุดสูงสุด เติบโตทั้ง YoY และ QoQ ขับเคลื่อนโดยความก้าวหน้าของโครงการและช่วงไฮซีซันของรายได้ส่วนแบ่งกำไรของ CKP กำไรปกติของ STECON คาดว่าจะเติบโต YoY และ QoQ หนุนจากความคืบหน้าของโครงการและการไม่มีผลขาดทุนจากโครงการ MRT สายสีชมพูและสายสีเหลือง SEAFCO และ PYLON คาดว่าจะมีกำไรเติบโต YoY และ QoQ หนุนจากการรับรู้รายได้จากโครงการ MRT สายสีส้ม

มุมมองเชิงบวก

• เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มบริการก่อสร้าง โดยเลือก CK (“ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 21.5 บาท) และ SEAFCO (“ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 3.43 บาท) เป็นหุ้นเด่น ปัจจัยบวก ได้แก่ แนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่งสำหรับผู้รับเหมาก่อสร้างโยธาและงานตอกเสาเข็ม และความเชื่อมั่นเชิงบวกจากการคาดการณ์การเปิดประมูลโครงการเมกะโปรเจกต์ใหม่ภายใต้แผนของรัฐบาลใหม่