KS Daily View 23.09.2025 >>> กลุ่มพลังงานปรับตัวระยะสั้น หลังราคาน้ำมันปรับตัวลดลงต่อเนื่อง กรอบ SET วันนี้ 1,265-1,295 จุด แนะนำ GFPT, SCC

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.44%, Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.70%, และ Dow Jones เพิ่มขึ้น 0.14% ดัชนีหุ้นหลักทั้งสามของสหรัฐฯ ปิดตลาดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นวันที่สามติดต่อกัน นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวสูงขึ้น โดย Nvidia หลังจากที่บริษัทประกาศว่าจะลงทุนสูงถึง 1 แสนล้านดอลลาร์ใน OpenAI ราคาหุ้นของ Nvidia เพิ่มขึ้น 3.9% ซึ่ง Nvidia จะเป็นผู้จัดหาชิปศูนย์ข้อมูลให้กับ OpenAI ด้วย

ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,282.54 จุด ลดลง 10.18 จุด (-0.79%) จากการปรับตัวลดลงของกลุ่มพลังงาน, กลุ่มขนส่ง, และกลุ่มค้าปลีก ในวันนี้ เราคาด SET Index จะแกว่งตัว sideway down  ได้เล็กน้อยในกรอบ 1,265-1,295 จุด หลังการปรับตัวขึ้นของตลาดเริ่มดูตันๆ ปัจจัยบวกใหม่ในตลาดดูเริ่มมีน้อยและส่วนมากที่มีอยู่ตลาดก็รับรู้แล้วไป ทั้งเรื่องการเปลี่ยนผ่านนายกฯ ใหม่ได้เร็ว จนกระทั่งเรื่องการโปรดเกล้าฯ ครม. อนุทิน 1 และการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของ Fed ในขณะเดียวกันกลุ่มพลังงานอาจปรับตัวในระยะสั้นหลังราคาน้ำมันปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ท่ามกลางความกังวลภาวะล้นตลาด หลังอิรักมีแผนส่งออกน้ำมันเพิ่มเติมในช่วงที่เหลือของปี  ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนแนะนำหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ อย่าง GFPT เก็งการส่งออกไก่แปรรูปเพิ่มขึ้นใน EU และ SCC บน spread ของ olefin chain product หลังราคาน้ำมันปรับตัวลดลง และการลด supply ในอนาคต

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า ราคาสุกรขุนหน้าฟาร์มตกต่ำเหลือเพียง 52-64 บาท/กก. ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตจากปัจจัยเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้เกษตรกรจำนวนมากขาดทุน สมาคมฯ จึงออกมาตรการแก้ปัญหา เช่น กิจกรรม “หมู 2 โล 100” กระตุ้นการบริโภค พร้อมลดปริมาณสุกรในตลาดด้วยการตัดวงจรลูกสุกร 100,000 ตัว ขอความร่วมมือผู้เลี้ยงรายใหญ่เก็บหมูเข้าห้องเย็น และกำหนดน้ำหนักเชือดไม่เกิน 110 กก. โดยคาดว่ามาตรการนี้จะช่วยระบายซัพพลายส่วนเกิน มองเป็นบวกเล็กน้อยกับCPF TFG BTG
  1. ราคาน้ำมันดิบโลกปิดลบเล็กน้อยวันจันทร์ ท่ามกลางกังวลภาวะล้นตลาด แม้มีความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ เบรนท์ลดลง 0.2% ปิดที่ 66.57 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน WTI ลดลง 0.1% ที่ 62.64 ดอลลาร์ นักลงทุนจับตาอุปทานเพิ่มขึ้นจาก OPEC+ โดยอิรักคาดส่งออก ก.ย. 3.4–3.45 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่คูเวตมีกำลังผลิตสูงสุดรอบ 10 ปีที่ 3.2 ล้านบาร์เรล/วัน มองเป็นลบเล็กน้อยกับจากแนวโน้มราคาน้ำมันที่ลดลง PTTEP
  1. รัฐบาลอาร์เจนตินายกเลิกภาษีส่งออกชั่วคราวใน ธัญพืช เนื้อวัว และสัตว์ปีกถึงสิ้นตุลาคม เพื่อเร่งการขายต่างประเทศและดึงดอลลาร์เข้าประเทศ เสริมค่าเงินเปโซที่อ่อนค่า เดิมภาษีอยู่ที่ 26% สำหรับถั่วเหลือง และ 9.5% สำหรับข้าวโพด มาตรการนี้คาดกระตุ้นการขายพืชผลที่ยังค้างสต๊อกกว่า 8 พันล้านดอลลาร์ แม้อาจทำให้ตลาดล้นซัพพลายและกดดันราคาในระยะสั้น มองเป็นบวกกับ CPF BTG TFG GFPT จากแนวโน้มต้นทุนอย่างกากถั่วเหลืองราคาถูกลง
  1. โปแลนด์รายงานการระบาดของไข้หวัดนกสายพันธุ์รุนแรง H5N1 ในฟาร์มห่านและไก่งวงที่เมืองซุสซ์ ทางตอนเหนือ ทำให้สัตว์ปีกตายราว 4,000 ตัว ตามข้อมูลจากองค์การสุขภาพสัตว์โลก (WOAH)เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงยุโรปเผชิญการระบาดตามฤดูกาล ขณะที่สัปดาห์ก่อนโปแลนด์เพิ่งลงนามข้อตกลงกับจีนเพื่อฟื้นการค้าสัตว์ปีกที่ถูกระงับจากการระบาดก่อนหน้านี้มองเป็นบวกกับ GFPT
  1. สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า งานรับสร้างบ้านและวัสดุ EXPO 2025 ซึ่งจัดถึงวันที่ 14 ก.ย. 2568 มียอดผู้เข้าชมกว่า 15,000 คน เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10,000 คน สะท้อนความต้องการสร้างบ้านยังแข็งแกร่ง โดยงานนี้มียอดขายรวมกว่า 1,543 ล้านบาท จากบ้าน 180 หลัง เฉลี่ยมูลค่าก่อสร้างต่อหลัง 8.5 ล้านบาท มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกเล็กน้อยกับ DOHOME และ GLOBAL

Daily pick

GFPT : ราคาพื้นฐาน 13.40 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ GFPT จากแนวโน้ม ผลประกอบการใน 3Q25 ยังคงรักษาการเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยเราคาดว่า ราคาขายไก่ใน EU จะปรับตัวดีขึ้นราว 6% ในครึ่งหลังของปี 2025 พร้อมกับต้นทุนการเลี้ยงที่ปรับตัวลดลงจากการนำเข้าถั่วเหลืองเลี้ยงสัตว์ในเดือน กค ที่ผ่านมา พร้อมกับเราคาดการณ์ว่าหากประเทศไทยมีการนำเข้าข้าวโพดจาก US ที่เป็นส่วนหนึ่งของ deal US reciprocal tariffs ก็จะมีต้นทุนที่ถูกลงราว 15-20% เทียบกับการนำเข้าจากเพื่อนบ้านหรือราคาในประเทศ ซึ่งจะมี upside เพิ่มเติมต่อประมาณการกำไรราว 5-10%

SCC: ราคาพื้นฐาน 246.00 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ SCC ในระยะยาว โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของธุรกิจ SCGC ซึ่งคาดว่าจะได้ประโยชน์จากการปิดกำลังการผลิตโอเลฟินทั่วโลกประมาณ 15 ล้านตันในช่วงปี 2026–2028 ทั้งจากการทยอยปิดโรงงานเก่าในจีน (5.2 ล้านตัน หรือราว 13% ของกำลังผลิตประเทศ) และการปิด/ลดกำลังผลิตของผู้ผลิตต้นทุนสูงในยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีก 10 ล้านตัน ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 85% ใกล้เคียง mid-cycle ในปี 2022 และดันส่วนต่างราคา PE/PP ขึ้นสู่ 400–450 ดอลลาร์/ตัน จากปัจจุบันที่ระดับต้นทุน 340–350 ดอลลาร์/ตัน หากเป็นไปตามนี้PBV ของ SCC มีโอกาส re-rate จาก 0.8x สู่ 1.0–1.2x หรือราคาเหมาะสม 300–350 บาท/หุ้น ธุรกิจปูนซีเมนต์ มีแนวโน้มได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนภาครัฐ รวมถึงการปรับขึ้นราคาขายที่ทำไปแล้วใน 1Q25 เสริมแรงหนุนกำไร ขณะเดียวกัน SCC ยังเดินหน้าลดหนี้ด้วยปรับลด CAPEX ปี 2025 เหลือ 3 หมื่นล้านบาทจากค่าเฉลี่ย 5 หมื่นล้านบาท ในอดีตที่ผ่านมา

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันอังคาร ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของโซนยุโรป (HCOB Manufacturing PMI Flash) เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 50.8 จุด เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 50.7 จุด และ การรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการของโซนยุโรป (HCOB Service PMI Flash) เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 50.5 ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า ต่อด้วยด้วยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของสหรัฐ (S&P Global US Manufacturing PMI Flash) ครั้งแรกเดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 51.9 จุดชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้ารายงานที่ 53.0 จุด ปิดท้ายด้วยถ้อยคำแถลงของประธานเฟดPowell เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในงาน Greater Providence Chamber of Commerce Economic Outlook Luncheon ที่รัฐโรดไอแลนด์

วันพุธ ติดตามการรายงานของกระทรวงพาณิชย์ไทยในตัวเลขส่งออก (TH Export) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 7.0% YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 11.0% YoY และตัวเลขนำเข้าเดือน (TH Import) ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 9.0% YoY เร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 5.1% YoY

วันพฤหัสบดี ติดตามยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ (Durable goods orders) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ -0.3% MoM เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ -2.8% MoMต่อด้วยการรายงานครั้งสุดท้ายของ GDP 2Q25 สหรัฐอเมริกา ตลาดคาดที่ 3.3% ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า ปิดท้ายด้วยจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดคาดการณ์ที่ 2.34 แสนตำแหน่งเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.31 แสนตำแหน่ง

วันศุกร์ ติดตามรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล (US Core PCE Price Index)เดือน ส.ค. ตลาดคาดที่ 2.7% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 2.6% YoY

- Advertisement -