SKIN เข้าเทรด mai วันแรก เปิดตลาดที่ 3.10 บาท เพิ่มขึ้น 1.90 บาท +158.33% จากราคา IPO 1.20 บาท/หุ้น เร่งเครื่องออกสินค้าใหม่บูกตลาด – ตั้งเป้าโต 2 เท่าใน 3 ปี

SKIN เข้าเทรด mai วันแรก เดินหน้าสร้างการเติบโตหลังระดมทุนต่อยอดผลิตภัณฑ์เดิม พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ 12 SKUs บุกตลาดช่วงไฮซีซัน พร้อมขยายช่องทางจำหน่ายและฐานลูกค้า ตั้งเป้าโตมากกว่า 2 เท่าใน 3 ปี ด้าน APM ที่ปรึกษาทางการเงินมั่นใจเป็นหุ้น Growth Stock โอกาสเติบโตสูง PST เผยธุรกิจมีความสามารถทำกำไร อุตสาหกรรมความงามเติบโต สร้างโอกาสที่ดีแก่นักลงทุน

นายชาญวิทย์ เขียวนาวาวงศ์ษา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกิน ลาบอราทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ SKIN ผู้พัฒนาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงามแบรนด์ไทยที่เข้าใจผู้บริโภคยุคใหม่เปิดเผยว่า การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในกลุ่มอุตสาหกรรม สินค้าอุปโภคบริโภคเป็นวันแรก ถือว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี โดยเป็นอีกก้าวสำคัญในการสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องให้กับบริษัท ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 12 ปี บริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของผลการดำเนินงาน และการเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค

SKIN ตั้งเป้าหมายการเติบโตมากกว่า 2 เท่าใน 3 ปี โดยแผนการดำเนินงานในช่วงไตรมาสสุดท้าย ซึ่งเป็นไฮซีซันของธุรกิจ บริษัทเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งสกินแคร์และ Makeup Care ภายใต้แบรนด์ Skinsista และแบรนด์เวชสำอาง Dermie เพิ่มอีก 12 SKUs ขยายช่องทางการจำหน่ายออฟไลน์ – ออนไลน์ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ และเข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ได้มากขึ้น

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาการเงิน บริษัท สกิน ลาบอราทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ SKIN กล่าวว่า APM มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของ SKIN การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ในครั้งนี้ จะช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินแผนธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยความพร้อมทั้งในด้านเงินทุน การขยายตลาดในเชิงรุก และความเป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมความงามที่เข้าใจผู้บริโภคยุคใหม่

ทั้งนี้ SKIN จะเป็นหุ้น Growth Stock ที่มีโอกาสเติบโตอย่างมากในอนาคต เนื่องจากบริษัทอยู่ในจุดเริ่มต้นของธุรกิจด้านสกินแคร์ เวชสำอาง และ Makeup Care ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่และขยายตัวต่อเนื่องทุกปี อีกทั้งแบรนด์ภายใต้การบริหารของบริษัททั้ง Skinsista และ Dermie เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียง และได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค ส่งผลให้บริษัทมีโอกาสในการขยายฐานลูกค้าได้อีกมาก จากการเพิ่มจำนวนผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในการบำรุง ดูแล และแก้ปัญหาผิว ที่มีราคาคุ้มค่า

นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PST ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า เชื่อว่า SKIN จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน ทั้งในการซื้อขายวันแรกและช่วงต่อจากนี้ จากการกำหนดราคาเสนอขายไอพีโอที่เหมาะสม สอดคล้องกับภาพรวมการลงทุนในปัจจุบัน ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจที่ดี ไม่มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย ทำให้บริษัทมีความพร้อมขยายธุรกิจในอุตสาหกรรมความงามที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่า SKIN จะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน ทั้งในแง่ของการเติบโตและการปันผลให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งบริษัทมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ

- Advertisement -